Page 9 - Culture3-2017
P. 9
“ข้ำพเจ้ำนั้นภูมิใจเสมอมำว่ำ คนไทยมีสำยเลือดของช่ำงฝีมือ ว่าหญิงชาวบ้านที่มาเฝ้ารอรับเสด็จแทบทุกคนนุ่งซิ่นไหมซึ่งมีความ
อยู่ทุกคน ไม่ว่ำจะเป็นชำวไร่ ชำวนำ หรืออำชีพใด อยู่สำรทิศใด คนไทย สวยงามต่างกัน พระองค์ทอดพระเนตรผ้าไหมเหล่านั้นด้วยความสน
มีควำมละเอียดอ่อนและฉับไวต่อกำรรับศิลปะทุกชนิด ขอเพียงแต่ พระราชหฤทัยยิ่ง ทรงมีพระราชด�ารัสแก่หญิงเหล่านั้นให้สืบสานการ
ให้เขำได้มีโอกำสฝึกฝน เขำก็จะแสดงควำมสำมำรถออกมำให้เห็น” ทอผ้าไว้ ทรงสนับสนุนด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ทรงรับเด็ก
(พระราชด�ารัส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ยากจนและการศึกษาน้อยเข้ามาเป็นนักเรียนศิลปาชีพโดยไม่จ�าเป็น
ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ต้องมีพื้นฐานมาก่อน แล้วจัดหาครูช่างฝีมือแขนงต่าง ๆ มาสอน
เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๓๒ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา) งานหัตถกรรมแทบทุกประเภทในสวนจิตรลดา นับเป็นก้าวแรกของ
โครงการศิลปาชีพ และจัดตั้ง “มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จ-
พระราชกรณียกิจแรกทางด้านการส่งเสริมอาชีพหัตถกรรม พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม
แก่ราษฎรเริ่มขึ้นเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๐๘ ระหว่างประทับที่ ๒๕๑๙ โดยมีการจัดตั้ง “โรงฝึกศิลปาชีพสวนจิตรลดา” ใน พ.ศ.
วังไกลกังวล อ�าเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งสองพระองค์ได้ ๒๕๒๑ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางงานศิลปาชีพ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๘
เสด็จพระราชด�าเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรที่หมู่บ้านเขาเต่า สมเด็จ- รัฐบาลได้จัดตั้งเป็นกองศิลปาชีพขึ้นในส�านักราชเลขาธิการ เพื่อ
พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้ทรงชักชวนให้หญิงชาวบ้านหัดทอ สนับสนุนงานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
ผ้าฝ้ายขาย โดยโปรดเกล้าฯ ให้จัดหาครูทอผ้าจากจังหวัดราชบุรีมาสอน พระบรมราชินีนาถ งานศิลปาชีพได้ขยายไปทั่วทุกภูมิภาค
ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๓ ขณะโดยเสด็จ ส�าหรับโรงฝึกศิลปาชีพสวนจิตรลดาได้ยกสถานะขึ้นเป็น
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ไป “สถาบันสิริกิติ์” เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๓ พัฒนางานหัตถกรรมชาวบ้าน
ทรงเยี่ยมเยียนราษฎรหลังเกิดอุทกภัยที่จังหวัดนครพนม ทรงสังเกต สู่งานประณีตศิลป์ขั้นสูงดั่งช่างหลวงแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
กรกฎาคม-กันยายน ๒๕๖๐ 7