Page 8 - Culture3-2017
P. 8
ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร
ก�าเนิดศิลปาชีพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงตามเสด็จ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถ-
“...ทุกครั้งที่เมืองไทยเกิดน�้ำท่วมหรือเกิดภัยพิบัติ...ข้ำพเจ้ำได้ บพิตร ไปทรงเยี่ยมเยียนพสกนิกรทั่วทุกภาคของประเทศนับเป็น
ตำมเสด็จพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว ทรงน�ำของพระรำชทำนไป เวลาหลายสิบปี ได้ทอดพระเนตรเห็นความเป็นอยู่ของราษฎร
ช่วยเหลือรำษฎร มักจะทรงเห็นเครื่องอุปโภคบริโภคแล้วก็ทรงรับสั่ง และทรงพบว่าราษฎรส่วนใหญ่ซึ่งเป็นเกษตรกรต้องประสบภัย
กับข้ำพเจ้ำว่ำ กำรช่วยเหลือแบบนี้เป็นกำรช่วยเฉพำะหน้ำ ซึ่งช่วยเขำ ธรรมชาติต่าง ๆ ท�าให้การประกอบอาชีพไม่ได้ผลเท่าที่ควร
ไม่ได้จริง ๆ ไม่พอเพียง ทรงคิดว่ำท�ำอย่ำงไรจึงจะช่วยเหลือชำวบ้ำน ราษฎรเหล่านั้นส่วนใหญ่มีฐานะยากจน จึงทรงมีพระราชด�าริ
เป็นระยะยำว คือท�ำให้เขำมีหวังที่อยู่ดีกินดีขึ้น ด้วยเหตุนี้ข้ำพเจ้ำจึง ที่จะหาอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มพูนรายได้ และใช้เวลาว่างจากฤดู
เริ่มคิดหำอำชีพเสริมให้แก่ครอบครัวชำวนำ ชำวไร่ และพระบำท- เพาะปลูกให้เกิดประโยชน์ โดยไม่ต้องละทิ้งถิ่นฐานและทิ้ง
สมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวทรงหำแหล่งน�้ำให้กำรท�ำไร่ท�ำนำของเขำเป็น กรรมสิทธิ์ในที่ดินของตนเข้ามาท�างานในเมือง ซึ่งจะท�าให้เกิด
ผลต่อประเทศชำติบ้ำนเมือง ทรงพระรำชด�ำเนินไปดูตำมไร่ของเขำ ปัญหาสังคมตามมา เหนืออื่นใดยังเป็นการสืบสานและฟื้นฟู
ทรงคิดว่ำนี่เป็นก�ำลังใจ และที่ทรงให้ข้ำพเจ้ำดูแลครอบครัว ก็เลยเป็น งานหัตถกรรมแบบไทยโบราณซึ่งก�าลังจะเสื่อมสูญไปตาม
ที่เกิดของมูลนิธิส่งเสริมศิลปำชีพ...” กาลเวลาให้กลับมาแพร่หลาย
(พระราชด�ารัส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ด้วยพระองค์ทรงพบว่าชาวไทยนั้นมีความเป็นเลิศ
ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในงานฝีมือ เพียงน�าเขาเหล่านั้นมาเจียระไนก็จะกลายเป็น
เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๓๔ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา) เพชรเม็ดงามส่องแสงระยิบระยับ
6