Page 71 - Culture3-2017
P. 71
๒
หมายถึง สระที่ต้องอาศัยพยัญชนะมาประกอบเท่านั้นจึงจะใช้ได้ ตัวเลขในอักษรธรรมอีสาน มี ๑๐ รูป เหมือนภาษาไทย
มี ๒๗ รูป โดยเขียนไว้รอบพยัญชนะตัวเต็มคือ ด้านหน้าเรียกว่า ปัจจุบัน
สระหน้า ด้านหลังเรียกว่าสระหลัง ด้านบนเรียกว่าสระบน ด้านล่าง อนึ่ง อักษรธรรมอีสานในหนังสือบางเล่มหรือในทัศนะของ
เรียกว่าสระล่างเช่นเดียวกับภาษาไทย นักปราชญ์อีสานบางคนอาจพบว่าอักษรธรรมอีสานมีมากกว่านี้
ส่วนวรรณยุกต์ในอักษรธรรมอีสานไม่มีรูป แต่มีเสียง เช่น พยัญชนะ อาจมีมากกว่า ๓๗ เพราะเพิ่ม “ศ” และ “ษ” เข้าไป
วรรณยุกต์ทั้ง ๕ เสียงเหมือนภาษาไทย โดยที่ผู้อ่านต้องผันหาเสียง ด้วย ส่วนสระเพิ่มสระ “ใ” เข้าไปด้วย จึงท�าให้มีจ�านวนมากกว่า
เอาเองตามความหมายของประโยคหรือข้อความนั้น ๆ เป็นเกณฑ์ ที่กล่าวมา
ในการพิจารณา ซึ่งวิธีการดังกล่าวนี้คนโบราณอีสานเรียกว่า นอกจากนี้อักษรธรรมอีสานยังมีการประกอบค�าแบบพิเศษ
“หนังสือ หนังหา” คือหาความหมายเอาเองตามค�าบริบทที่ เรียกว่า อักขรวิธีพิเศษ หมายถึง มีวิธีประสมอักษรแตกต่างจาก
แวดล้อมของค�านั้น กฎเกณฑ์ทั่วไป โดยมีรูปร่างแตกต่างไปจากรูปค�าที่ประกอบกัน
เครื่องหมายในอักษรธรรมอีสานที่ส�าคัญ ๆ มี ๕ อย่าง ระหว่างพยัญชนะ สระ และเครื่องหมายที่ประกอบค�าตามปกติ
แต่ละอย่างก็มีหน้าที่แตกต่างกันออกไป บางเครื่องหมายมีหน้าที่ ทั่วไป หรืออาจเขียนอย่างหนึ่งแต่อ่านอีกอย่างหนึ่ง แต่สามารถอ่าน
หลายอย่างแล้วแต่บริบทของการใช้งาน เช่น เครื่องหมายไม้ซัด เป็นค�าที่มีความหมายได้ ซึ่งต้องใช้การจดจ�าและพิจารณาเป็นพิเศษ
ที่ใช้เป็นตัวสะกด แทน ก และเป็นไม้หันอากาศ เป็นต้น และต้องดูบริบทของค�ารอบข้างจึงจะสามารถเข้าใจความหมายใน
ค�าหรือประโยคนั้น ๆ เข้าใจ
ภาพ ๑ ชั้นวางคัมภีร์ใบลานท�าเป็นชั้น ๆ คล้ายขั้นบันได ทางอีสานเรียกว่า รูปอักษรธรรมอีสานเก่าแก่สุดเท่าที่พบในภาคอีสาน ได้แก่
กากะเยียหรือขากะเยีย จารึกฐานพระพุทธรูปพระประธานอุโบสถวัดพระธาตุพนม จังหวัด
ภาพ ๒ หอไตรกลางน�้า วัดทุ่งศรีเมือง อ�าเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นหนึ่ง
ในหอไตรอีสานที่งดงามและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ นครพนม จุลศักราช ๘๖๕ หรือ พุทธศักราช ๒๐๔๖ ส่วนศิลาจารึก
กรกฎาคม-กันยายน ๒๕๖๐ 69