Page 62 - วารสารวัฒนธรรม ปีที่ ๕๖ ฉบับที่ ๒ เมษายน - มิถุนายน ๒๕๖๐
P. 62
ดังที่ศิลาจารึกสมัยสุโขทัยปรากฏค?าว่า “เหมือง” คือล?าน?้าที่ขุดขึ้นเพื่อส่งน?้าและ
เหมือง ฝาย อันแสดงให้เห็นว่าผู้คนในสมัยนั้นมี มีหลายขนาดตามความต้องการของพื้นที่ ส่วนค?าว่า
ระบบการจัดการน?้าแล้ว เช่น ศิลาจารึกหลักที่ ๓ หรือ “ฝาย” หมายถึงสิ่งก่อสร้างที่สร้างขวางกั้นแม่น?้า
จารึกนครชุม มีค?าว่า “เหมืองแปลงฝายรู้ปรา...” ล?าคลอง ล?าธาร เพื่อกักชะลอและเก็บน?้า หรือ
นอกจากนี้ยังปรากฏในจารึกฐานพระอิศวรเมือง เปลี่ยนแปลงทิศทางไหลของน?้า ยังมีฝายในโครงการ
ก?าแพงเพชรว่า “อนึ่งท่อปู่พระยาร่วงท?าเอาน?้า พระราชด?าริ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เรียกว่า “ฝายแม้ว”
ไปเถิงบางพานนั้นก็ถมหายสิ้นและเขาย่อม ขณะที่สิ่งก่อสร้างมีลักษณะเป็นฝายขนาดใหญ่นั้น
ท?านาทางฟ้า และหาท่อนั้นพบ กระท?าท่อเอา เรียกว่า “เขื่อน”
น?้าเข้าไปเลี้ยงนาให้เป็นนาเหมืองนาฝาย มิได้ เหมืองฝาย จึงเป็นชื่อเรียกระบบชลประทาน
เป็นทางฟ้า...” อันมีความหมายว่า ท่อที่พระยาร่วง โบราณพื้นบ้านที่ครบวงจร เป็นระบบการจัดการน?้า
ท?าไว้เพื่อส่งน?้าไปถึงบางพานนั้นทรุดโทรมถูกทับถม ที่อยู่กับเกษตรกรไทยมานาน เป็นวัฒนธรรมของคน
หายไป ชาวบ้านจึงต้องท?านาด้วยการพึ่งพาน?้าฝน ที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างพึ่งพาอาศัยไม่ท?าลาย และ
เมื่อหาท่อน?้าเก่านั้นพบก็จะได้ใช้งานน?าน?้าเข้านาตาม เป็นมรดกทางภูมิปัญญาอันสูงค่าจากบรรพบุรุษ
ความต้องการให้เป็นนาเหมืองนาฝาย โดยไม่ต้องคอย มรดกภูมิปัญญาการท?าเหมืองฝาย แม้ใน
๑ ฝนจากฟ้าเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันนี้อาจกล่าวได้ว่าแทบจะไม่มีให้เห็นมากนัก
๔ ๒ ๓
60