Page 83 - CultureMag2015-3
P. 83
บ ร ม ค รู
กองบรรณาธิการ
และ พลูหลวง
ทัศนศลิ ป ์ (จิตรกรรม) ป ี ๒๕๓๕
ประยูร อุลุชาฎะ เป็นบุตรของนายพยนต์กับนางค�ำน้อย “เดิน เดิน เดิน อย่ายอมแพ้ใคร ชาติไทยจงเดิน
อุลุชาฎะ เกิดท่ีบ้านคลองมหาวงศ์ เมืองปากน�้ำ (จังหวัด เดิน เดิน เดิน ถ้าหวังก้าวหน้า เราต้องพากันเดิน” ส่วน
สมทุ รปราการ) เมอื่ วนั พธุ ท ี่ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๔๗๑ แตแ่ รก ภายในรา้ นเตม็ ไปดว้ ยรปู ปน้ั อนสุ าวรยี ข์ นาดใหญข่ องนกั เรยี น
เม่ือแมต่ ง้ั ทอ้ ง พ่อหวังจะได้ลูกสาวถึงแกต่ งั้ ช่ือเอาไว้ลว่ งหน้า ศิลปากร ภายใต้การอบรมสั่งสอนของศาสตราจารย์คอราโด
วา่ “รชั น”ี แตเ่ มอื่ คลอดออกมาเปน็ บตุ รชายอว้ นจำ�้ มำ�่ ผวิ ขาว เฟโรจี ครูฝรั่งชาวอิตาลี ผู้ซึ่งภายหลังโอนสัญชาติเป็นไทย
ผมแดงเหมอื นเดก็ ฝรงั่ พอ่ จงึ ตอ้ งไปกราบทา่ นเจา้ คณุ วดั กลาง และเปลย่ี นนามเป็น “ศลิ ป ์ พีระศร”ี
ขอช่ือใหม่ ท่านตั้งให้ว่า “ประยูร” ตามเกณฑ์ของเด็กผู้ชาย
วนั พุธ คือใชอ้ ักษรวรรคศรกี บั วรรคเดชผสมกนั นับแต่น้ันมาศิลปากรจึงเป็นความใฝ่ฝันของประยูร
เมอื่ จบชนั้ มธั ยมฯ ๖ จากโรงเรยี นประจำ� จงั หวดั สมทุ รปราการ
ตอ่ มาอกี หลายสบิ ป ี เมอ่ื หนั มาเขยี นหนงั สอื ประยรู เพอื่ นนกั เรยี นตา่ งมงุ่ เขา้ กรงุ เทพฯ ไปเรยี นตอ่ เขากเ็ ขา้ มาดว้ ย
กย็ งั เกบ็ เอาตวั น จากชอ่ื รชั น ี มงคลนามทพ่ี อ่ ตง้ั ให ้ มาผนวก เชน่ กนั แตเ่ มอ่ื มาถงึ แลว้ จงึ เพง่ิ รวู้ า่ หากตอ้ งการไปเปน็ ลกู ศษิ ย ์
กบั ถิ่นฐานบ้านเดิม กลายเป็นนามปากกา “น. ณ ปากน�้ำ” “อาจารย์ฝรั่ง” ท่ีศิลปากร ต้องไปเรียนโรงเรียนเพาะช่าง ซ่ึง
ขณะนน้ั มีฐานะเปน็ โรงเรียนเตรียมของมหาวิทยาลัยศิลปากร
ตงั้ แตย่ งั เปน็ นกั เรยี น เดก็ ชายประยรู มชี อื่ เสยี งในหมู่ เสียก่อน
เพอ่ื นๆ วา่ มฝี มี อื ทางเขยี นรปู มกั ถกู ครใู ชใ้ หเ้ ขยี นแผนทรี่ ปู ตบั
ไตไส้พุง รปู เคร่อื งมอื วิทยาศาสตร ์ บนกระดานด�ำบ่อยครัง้ หลังจากจบเพาะช่าง ประยูรก็เข้าศึกษาต่อในคณะ
จติ รกรรม ประตมิ ากรรม มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร ตามความใฝฝ่ นั
มีอยู่ปีหนึ่ง เมื่อยังเรียนมัธยมฯ ที่ปากน�้ำ เขาเคย
ตามผู้ใหญ่เข้ามาเที่ยวงานรัฐธรรมนูญท่ีวังสราญรมย์ใน ศิลปากรยุคนั้นเป็นโลกของการเรียนอย่างจริงจัง
พระนคร แล้วมายืนตกตะลึงอยู่หน้าร้านของกรมศิลปากร ชนิดไม่มีวันหยุด การสอบวิชาการแต่ละครั้งมีแต่สอบ
ทนี่ นั่ มรี ปู ปน้ั ชายรา่ งกำ� ยำ� ขนาดสองเทา่ คนจรงิ เดนิ ยดื อกอยา่ ง ปากเปล่า นักศึกษาทุกคนต้องแม่นย�ำในทฤษฎีสี กล้ามเน้ือ
สงา่ ผา่ เผย ขา้ งใตเ้ ขยี นวา่ เดนิ -เดนิ -เดนิ อนั มาจากเพลง “เดนิ ” และประวัติศาสตร์ศิลปะ เพราะครูจะจ้ีถามอะไรก็ได้ทั้งสิ้น
เพลงปลกุ ใจของหลวงวจิ ติ รวาทการ อธบิ ดกี รมศลิ ปากร ทว่ี า่ และหากตกวชิ าใดวชิ าหนง่ึ แลว้ ก็เป็นอนั วา่ ตอ้ งซ้�ำชั้น
กรกฎาคม-กันยายน ๒๕๕๘ 81