Page 65 - CultureMag2015-1
P. 65
วธิ ที า�
ค่ัวมะพรำ้ วดว้ ยไฟออ่ นๆ พอเหลอื งหอม เกบ็ อดั ไวใ้ หก้ รอบ ละลำยกะปดิ ว้ ยน้ำ� ปลำ นำ้� ตำล
เติมน�้ำพอควรแลว้ ใส่มะพรำ้ วคั่วตำ� เล็กนอ้ ยพอขน้ ๆ ตัง้ ไฟใหเ้ ดอื ด
วิธจี ดั
เรียงใบสลับในจำนจนเต็ม ตักมะพร้ำวคั่วใส่ในใบเป็นค�ำๆ รำว ๑ ช้อนชำ วำงเครือ่ งเหล่ำนี้
ลงอยำ่ งละอนั กะปใิ สช่ ำมเลก็ ไวต้ ำ่ งหำก เม่ือจะรบั ประทำนจงึ ตกั หยอดเปน็ คำ� ๆ รำวคำ� ละ
คร่งึ ชอ้ นชำ
สูตรเมี่ยงค�ำต�ำรับนี้ น�ามาจากหนังสือ ต�ำรบั อำหำรพิเศษ ล�ำดับตำมบทเห่เรอื ยุคเก่ำและใหม่ ของ “ศรีมาลา”
ซึง่ เป็นนามปากกาของ หม่อมหลวงปอง มาลากุล พิมพ์เมื่อปี ๒๔๙๗ และน่าจะเป็นการตีพิมพ์สูตรเมีย่ งค�า
ทีเ่ ก่าแก่ทีส่ ดุ ฉบบั หนึง่ นอกเหนือจากค�าแปลกตา เช่น “พริกมูลหนู” ซึง่ เป็นค�าเก่าใช้เรียกพรกิ ขี้หนูแล้ว สูตรน้ี
ยงั แตกตา่ งจากทท่ี า� รับประทานกันในปจั จบุ นั หลายอยา่ ง ดงั จะเหน็ ไดว้ า่ ใชท้ ้งั พริกขห้ี นแู ละพริกช้ฟี า้ สว่ นน้า� เม่ยี ง
กม็ ีเพยี งกะปิ น้า� ปลา น�า้ ตาล และมะพรา้ วขดู คัว่ มไิ ดใ้ สข่ งิ ข่า ตะไคร้ หอมแดง ดงั ท่นี ยิ มกันเด๋ียวน้ี
มกราคม-มนี าคม ๒๕๕๘ 63