นิตยสารวัฒนธรรม ฉบับ ๓ ปีพ.ศ.๒๕๕๗ - page 8

8
นครศรี
ธรรมราชเท่
านั้
น หากแต่
ทอกั
นในหลายพื้
นที่
ทั
งใน
ภาคเหนื
อและภาคกลาง เป็
นต้
ผ้
ามั
ดหมี่
ผ้
าที่
ย้
อมด้
ายหรื
อไหมก่
อนน�
ำมาทอให้
เกิ
ดเป็
นลวดลาย ส่
วนมากเป็
นการมั
ดย้
อมเส้
นยื
น แต่
บาง
กลุ
มชนอาจมั
ดย้
อมทั้
งเส้
นยื
นและเส้
นพุ
ง (dubble ikat) ซึ่
งมี
ลวดลายที่
ประณี
ตมากกว่
าการมั
ดย้
อมเฉพาะเส้
นยื
น ผ้
ามั
ดหมี่
มี
ทอกั
นหลายท้
องถิ่
นในภาคอี
สานหรื
อภาคตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
มั
กทอเป็
นผ้
าซิ่
นและเครื่
องนุ่
งห่
ผ้
าจก
ผ้
าที่
เพิ่
มเส้
นพุ่
งพิ
เศษหลากสี
โดยการจก
ให้
ใช้
ปลายนิ
วหรื
อขนแม่
นงั
ดเส้
นพุ
งพิ
เศษขึ้
นมาแล้
วผู
ท�
ำให้
เกิ
ดลวดลายที่
มี
สี
หลายสี
ผ้
าจกมั
กเป็
นผ้
าหน้
าแคบ
ส�
ำหรั
บใช้
ต่
อตี
นผ้
าซิ่
น จึ
งเรี
ยกซิ่
นที่
ต่
อตี
นซิ่
นด้
วยผ้
าจกว่
ซิ่
นตี
นจก ซึ่
งเป็
นผ้
านุ
งของกลุ
มชนหลายกลุ
ม เช่
น ชาวไทยวน
ลื้
อ ลาว คั่
ผ้
าขิ
ผ้
าที่
ทอด้
วยการยกเส้
นยื
นให้
เกิ
ดลวดลาย
และเพิ่
มเส้
นพุ
งพิ
เศษท�
ำให้
เกิ
ดลวดลายซ�้
ำๆกั
นตามความกว้
าง
ของหน้
าผ้
า ผ้
าขิ
ดนิ
ยมทอกั
นในภาคอี
สาน มั
กใช้
เป็
นผ้
ตกแต่
งหน้
าหมอน เป็
นต้
ผ้
าพิ
มพ์
ผ้
าที่
ท�
ำลวดลายด้
วยการพิ
มพ์
ลวดลาย
ลงบนผิ
วหน้
าของผ้
า ทั้
งที่
พิ
มพ์
ด้
วยแม่
พิ
มพ์
แบบต่
างๆ ทั้
แม่
พิ
มพ์
ไม้
แม่
พิ
มพ์
โลหะ เช่
น ผ้
าพิ
มพ์
ด้
วยแม่
พิ
มพ์
โลหะ
อย่
างผ้
าพิ
มพ์
ลายที่
ราชส�
ำนั
กไทยสั่
งพิ
มพ์
มาจากประเทศอิ
นเดี
งานถั
กทอ
เป็
นศิ
ลปหั
ตถกรรมที่
แพร่
หลายใน
กลุ
มชนต่
างๆที่
มี
ภู
มิ
ปั
ญญาแฝงอยู
และเป็
นปั
จจั
ยส�
ำคั
ญในการ
ด�
ำรงชี
พของมนุ
ษย์
มาช้
านาน โดยเฉพาะการทอผ้
าส�
ำหรั
ใช้
เป็
นเครื
องนุ
งห่
ม ในประเทศไทยมี
การทอผ้
ามาแต่
โบราณ
และมี
รู
ปแบบและกรรมวิ
ธี
ที่
หลากหลาย กระจายไปตาม
กลุ
มชนต่
างๆ จนเกิ
ดเป็
นผ้
าที่
มี
ความงดงามและมี
เอกลั
กษณ์
เฉพาะกลุ
มชั
ดเจน เช่
น ผ้
าทอไทยวน ผ้
าทอไทพวน ผ้
าทอผู
ไท
มู
ลนิ
ธิ
ศิ
ลปาชี
พฯ ได้
รื้
อฟื
นการทอผ้
าพื้
นบ้
านของกลุ
มชนขึ้
นใหม่
ให้
สอดคล้
องกั
บการใช้
สอยเหมาะสมกั
บชี
วิ
ตปั
จจุ
บั
ผ้
าทอมื
อแบ่
งออกตามกลวิ
ธี
หรื
อเทคนิ
คได้
ดั
งนี้
ผ้
าพื้
ผ้
าทอด้
วยการขั
ดกั
นระหว่
างเส้
นยื
นและ
เส้
นพุ่
งอย่
างเป็
นระเบี
ยบ ผิ
วหน้
าผ้
าเรี
ยบสม�่
ำเสมอ ซึ่
งเป็
กลวิ
ธี
พื้
นฐานที่
ทอกั
นมาแต่
โบราณ ตั้
งแต่
การทอผ้
าหน้
าแคบ
ไม่
ใช้
ฟื
มแต่
ใช้
ไม้
กระทบเส้
นพุ
งให้
แน่
น เช่
น การทอผ้
าที่
ไม่
ใช้
กี่
ของชาวไทภู
เขา ซึ่
งเป็
นผ้
าหน้
าแคบ ประดั
บด้
วยวั
สดุ
อื่
เช่
น ลู
กเดื
อย เงิ
น กระจก ผ้
าทอชาวไทภู
เขาได้
รั
บการรื้
อฟื้
จนได้
รั
บความนิ
ยมในปั
จจุ
บั
ผ้
ายก
ผ้
าที่
ทอด้
วยการขั
ดกั
นระหว่
างด้
ายเส้
นยื
และเส้
นพุ
งท�
ำให้
เกิ
ดลวดลายบนผิ
วหน้
าผ้
า ผ้
ายก
ใช้
เป็
นผ้
านุ
ง และเครื่
องนุ
งห่
ม การทอผ้
ายกมี
ประวั
ติ
ความเป็
นมายาวนาน ผ้
ายกที่
มี
คุ
ณภาพดี
ที่
มี
มาแต่
โบราณ
คื
อ ผ้
ายกเมื
องนครศรี
ธรรมราช แต่
ผ้
ายกมิ
ได้
ทอเฉพาะเมื
อง
ขั้
นตอนเตรี
ยมลายผ้
าโดยการมั
ด ก่
อนการย้
อมสี
เพื่
อทอเป็
นผ้
ามั
ดหมี่
I,II,1,2,3,4,5,6,7 9,10,11,12,13,14,15,16,17,18,...122
Powered by FlippingBook