Page 87 - E-Book Culture 02_20182
P. 87
จากหนังสือคู่มือ ๔ หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อการท่องเที่ยว บ้านเหมืองกุง อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
ได้ประพันธ์ถึงบ้านเหมืองกุงเอาไว้ว่า
“อารยธรรม ความดี มีเรื่องเล่า
อารยธรรม บ้านเรา ร่วมเล่าเรื่อง
อารยธรรม น�้าต้น คนโฑเมือง
อารยธรรม รุ่งเรือง บ้านเหมืองกุง”
น�้าต้นขนาดใหญ่ เปรียบคล้ายกับเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้าน
คนโฑยักษ์ที่สูง ๑๘ เมตร ตั้งตระหง่านอยู่หน้าหมู่บ้าน
ติดกับสี่แยกถนนใหญ่ ทางหลวง ๑๐๘ เชียงใหม่-หางดง คนโฑนี้
แม้จะมีอายุเพียงสิบกว่าปี (สร้างเมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๔๘)
แต่กลับเป็นเหมือนสมุดบันทึกและสัญลักษณ์ที่เก็บซ่อนเรื่องราว
และประวัติศาสตร์ ๒๐๐ ปี ของหมู่บ้านเหมืองกุงเอาไว้ได้
เป็นอย่างดี
จากประวัติศาสตร์เมื่อครั้งที่เชียงใหม่ได้ตกอยู่ใต้อ�านาจของ
พม่ามาอย่างยาวนาน จนสู่ยุคที่อาณาจักรล้านนาเริ่มมีความสงบ
เรียบร้อย และเข้าสู่ “ยุคสร้างบ้านแปงเมือง” เมื่อพระยากาวิละ
ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ จากรัชกาลที่ ๑ ให้เป็นเจ้าเมือง
เชียงใหม่ จึงได้เริ่มการฟื้นฟูบ้านเมือง โดยเมืองเชียงใหม่นับเป็น
จุดเริ่มต้นรวบรวมไพร่พลจากเมืองนครล�าปางและที่ต่างๆ เข้ามา
เพื่อเป็นการบูรณะฟื้นฟูบ้านเมือง โดยการเรียกพลเมืองที่
หลบซ่อนอยู่ตามป่าเขาให้กลับคืน รวมถึงการยกพลไปตีเมือง
ต่างๆ ในแคว้นสิบสองปันนา ซึ่งมีชนเผ่าต่างๆ เช่น ไทยใหญ่
ลื้อ เขิน ยาง และอื่นๆ เข้ามาเป็นพลเมืองของเชียงใหม่ นี่คือ
การล�าเลียงงานปั้นเข้าเตาเผาขนาดใหญ่ ที่มาของค�าว่า “เก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง”
เมษายน - มิถุนายน ๒๕๖๑ 85