Page 49 - E-Book Culture 02_20182
P. 49

ต�าราว่าวเล่มแรกของไทยโดยพระยาภิรมย์ภักดี  ว่าวงูขนาดมหึมาที่ต้องใช้ไพร่พลมากมายในการขึ้นว่าว  บรรยากาศการเล่นว่าวนานาชาติที่ค่ายพระรามหก




              ในสมัยรัชกาลที่ ๗ เหลือสนามแข่งขันว่าวเพียงแห่งเดียว  นายปริญญา สุขชิต (ลุงเป็ด) ผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ท�าว่าวแบบแปลกๆ
         คือสนามหลวงเท่านั้น ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต�่า การแข่งขันว่าวจึง  สร้างสีสันและความตื่นตาให้กับวงการว่าวไทย ส่วนผู้คร�่าหวอดใน
         เงียบหายไป พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าว่าว  การท�าสายป่านว่าวคือ นายประสิทธิ์ พละเสวีนันท์ (ลุงแดง) แห่ง
         เป็นกีฬากลางแจ้งของไทยมาแต่โบราณ ควรส่งเสริมให้ด�ารงอยู่  วัดพระศรีอารย์ จ.ราชบุรี ซึ่งที่นี่ได้เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้การท�า
         สืบไป โปรดเกล้าฯ ส่งว่าวจุฬาที่มีเครื่องหมาย “สามศร” เข้าร่วม  ว่าวไทยกับปราชญ์ชาวบ้านอีกด้วย

         แข่งขันด้วย และมีว่าวจุฬาสายส�าคัญของสมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ     ต่อมาเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย ท�าให้กรุงเทพมหานคร
         เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ติดเครื่องหมาย  จ�าต้องปิดสนามหลวง การเล่นว่าวจึงลดลงไปมาก สมาคมกีฬาไทย
         “ดาวทอง”  เข้าแข่งขันอีกสายหนึ่ง ทั้งได้เสด็จฯ พระราชทาน  ในพระบรมราชินูปถัมภ์ได้เคยมีความพยายามไปจัดแข่งว่าวที่อื่น
         รางวัลให้แก่ผู้ที่ชนะการแข่งขันในวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๐ โดย  บ้าง เช่นที่สวนรถไฟ แต่ด้วยมีต้นไม้มาก เมื่อขึ้นว่าวไปแล้วมักจะ
         มีพระยาภิรมย์ภักดีเป็นนายสนาม ท�าให้ท้องสนามหลวงคราคร�่า  ลอยไปติดตามต้นไม้ เกิดการช�ารุดเสียหายไม่สามารถแข่งต่อได้
         ไปด้วยผู้คนทุกเพศทุกวัยอีกครั้ง กีฬาแข่งขันว่าวซึ่งได้ซบเซาไปได้  อีก จึงต้องยกเลิกไป และต้องกลับมาจัดที่สนามหลวง ซึ่งถือเป็น

         กลับมีชีวิตชีวาขึ้น หลังจากนั้นจึงได้มีการจัดแข่งขันกีฬาว่าวพนัน  สนามหลักในการแข่งขันว่าวในประเทศไทยเท่านั้น ต่อมาคนรัก
         จุฬา-ปักเป้า ในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนของทุกปี   ว่าวได้รวมตัวกันจัดตั้งสมาคมกีฬาว่าวไทยจุฬา-ปักเป้า ขึ้นมาโดย
              ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ ๙ เมื่อเกิดสงครามโลก  มีพลเรือเอกชัยณรงค์ เจริญรักษ์ เป็นนายกสมาคม
         ครั้งที่ ๒ การแข่งขันได้มีหยุดชะงักไป หลังสงครามกรุงเทพมหานคร      ปัจจุบันได้มีการจัดงานว่าวไทยประเพณีและว่าวนานาชาติขึ้น
         ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดงานงานมหกรรม  ในหลายจังหวัด เพื่อเป็นการอนุรักษ์ว่าวไทยและว่าวที่มีเอกลักษณ์

         ว่าวไทยปี ๒๕๒๖ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เฉพาะถิ่นเอาไว้เกือบทั่วทุกภาคของประเทศ เพื่อส่งต่อภูมิปัญญา
         เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธี มีการแข่งว่าวจุฬา-ปักเป้า ชิงถ้วย  ศาสตร์และศิลป์แขนงนี้ ให้คนแก่รุ่นหลัง อาทิ มหกรรมว่าวประเพณี
         พระราชทาน มีการประกวดว่าวภาพ ตลอดจนมีนิทรรศการว่าว  และว่าวนานาชาติจังหวัดสตูล เทศกาลว่าวไทยและว่าวนานาชาติ
         เซียนว่าวรุ่นใหญ่ในยุคนี้ต้องยกให้ ม.ร.ว.อัครัฐ วรวุฒิ ซึ่งมักเรียก  อ.ชะอ�า จ.เพชรบุรี (บางทีจัดที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์) งานแข่ง
         กันว่าลุงหม่อม ผู้เชี่ยวชาญในการท�าและการเล่นว่าวและท�าว่าว  ว่าวหาดสมิหลา อ.เมือง จ.สงขลา เทศกาลว่าวพระร่วง อ.ศรีสัชนาลัย

         ปักเป้า กับนายบุญธรรม ฮิมสกุล (ลุงซุป) ผู้เชี่ยวชาญในการเล่น  จ.สุโขทัย มหกรรมว่าวอีสาน อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ เป็นต้น
         ว่าวและท�าว่าวจุฬา ทั้งสองท่านเป็นแชมป์ถ้วยพระราชทาน   บรรณานุกรม
         พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มาหลายสมัย แชมป์รุ่น     พระยาภิรมย์ภักดี (บุญรอด เศรษฐบุตร) “ต�านานว่าวพนัน
         ต่อมาคือ รต.รุ่งโรจน์ ภู่ไหมทอง (บังดี้หรือจ่าดี้) ผู้เล่นว่าวปักเป้า   ต�าราผูกว่าว วิธีชักว่าว”

                                                                     นิตยสารศิลปากร • ปีที่ ๕๔ ฉบับที่ ๒ สารานุกรมไทยส�าหรับ
         และ รท. กบิน เคาวสุต (จ่าต้อย) แต่ผู้ที่ใครๆ ในวงการว่าวรู้จักดีคือ  เยาวชนฯ /เล่มที่ ๓๗ /การเล่นว่าวในสมัยรัตนโกสินทร์.


                                                                                               เมษายน - มิถุนายน ๒๕๖๑  47
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54