Page 53 - E-Book Culture 02_20182
P. 53
น่าคิดเหมือนกันว่าความเชื่อเรื่องผีปีศาจนี้มาจากไหนกัน
วิเคราะห์กันอย่างง่ายๆ ก็ได้ว่า ไม่ว่าวิญญาณหลังความตาย
จะมีจริงหรือไม่ แต่คนเราจะหาสิ่งใดมาอธิบายปรากฏการณ์
บางอย่างที่ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีเหตุผลตัวตนที่จับต้องได้ เมื่อคน
เราต้องหาบางสิ่งมารับผิดชอบ คงไม่พ้นอะไรบางอย่าง
ที่อยู่เหนือการควบคุมของมนุษย์ สิ่งนั้นน่าจะก่อรูปมาจาก
จินตนาการกับสัญชาตญาณเบื้องลึก ความโกรธความกลัว
ความรัก ความชัง และความบ้าคลั่งในอ�านาจ นั้นเอง
จ�าเลย น่าจะเป็นธรรมชาติ ที่มอบมันสมองอันเลอเลิศ
ซับซ้อนให้มนุษย์มาอย่างไม่เท่าเทียม เพราะบางคนนอกจาก
จะฉลาดล�้า ธรรมชาติยังมอบกลไกความคิดเชิงซ้อนทับกับ
จินตนาการให้อีก เยี่ยงนี้กระมังความเชื่อเรื่องภูติผีวิญญาณ
จึงเกิดขึ้นพร้อมเรื่องราวต่างๆ ที่หลอมรวมความเชื่อของมนุษย์
กลุ่มต่างๆ ขึ้น อ�านาจเหนือจริงที่จับต้องไม่ได้ที่ครอบง�า
เหนือผู้คนฝังรูปรอยและชี้ทางให้ต้องเชื่อถือรับฟัง และติดตาม การเสี่ยงทายปักดาบลงไปในข้าวสารของหมอเหยา
ด้วยการบวงสรวงบูชาวิงวอนร้องขอและในที่สุดก็คลี่คลายไป
จนถึงการตอบแทน การแก้บน ซึ่งก็คือ การติดสินบนต่อภูติผี ความป่วยไข้กับการบนบาน
นั้นเอง ดังนั้น ความเจ็บไข้อันเป็นความเลวร้ายจึงต้องถูก ร่างกายที่อ่อนแอและเชื้อโรคท�าให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บนั่น
ดลบันดาลขึ้นด้วยภูติผีปีศาจ และสามารถเยียวยาได้ด้วยการ คือ ข้อสันนิษฐานแบบแพทย์แผนปัจจุบัน การรักษาเยียวยาต้อง
บอกกล่าวอย่างเคารพแก่ภูติผี หรือสิ่งเหนือจริงต่างๆ ตาม กินยา ฉีดยา ผ่าตัด ว่ากันไป แต่ส�าหรับคนสมัยก่อนที่ยังไม่มี
ความเชื่อนั้นเอง การแพทย์สมัยใหม่ อาการผิดปกติที่เกิดกับร่างกายล้วนมาจาก
การกระท�าของผีหรือสิ่งเหนือธรรมชาติ อาจจะไปท�าบางสิ่งที่
ลบหลู่ล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือผีที่สถิตอยู่ตามที่ต่างๆ เช่น
ผีป่าผีเขา ผีน�้า ผีดิน ไม่เว้นแม้แต่ในบ้านเรือนตัวเองที่มี
ผีบ้านผีเรือน ผีบรรพบุรุษ เจ้าที่เจ้าทาง คุ้มครอง ด้วยว่าส�าหรับ
ผู้คนแต่เก่าก่อนทุกสิ่งอย่างล้วนมีผีชนิดใดชนิดหนึ่งคุ้มครองอยู่
ดังนั้นจึงต้องมีพิธีกรรมรักษาด้วยการบวงสรวงบูชา
ขอขมาอ้อนวอนให้หายเจ็บป่วย แม้ปัจจุบันการแพทย์สมัยใหม่
จะตอบค�าถามความเจ็บป่วยและสามารถเยียวยาโรคได้
กระนั้นความเชื่อเหนือจริงก็ยังไม่ลบเลือนไปง่ายๆ บางโรค
บางอาการที่เรื้อรังแพทย์ปัจจุบันรักษาไม่หาย ผู้คนก็ยังกลับมา
พึ่งพิงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และน่าแปลกที่บางครั้งโรคร้ายก็หายขาด
จากการรักษาแบบบวงสรวงบนบานได้
ดังนั้นพิธีกรรมการรักษาส�าคัญๆหลายอย่างด้วยวิธี
เช่นว่านี้ ในที่สุดจึงอาจจะกลายมาเป็นพิธีกรรมประจ�าปีของ
เครื่องประกอบพิธีกรรม ดาบปักลงไปในข้าวสารได้ หลายกลุ่มชน ที่หากไม่ได้รับการปฏิบัติ ก็มีความเชื่อกันว่าจะ
แสดงว่าผู้ป่วยจะหายป่วยอย่างแน่นอน ท�าให้ชุมชนนั้นอยู่ไม่เป็นสุขหรือเจ็บไข้ได้ป่วยไปพร้อมๆ กันด้วย
เมษายน - มิถุนายน ๒๕๖๑ 51