Page 28 - Culture4-2017 วารสารวัฒนธรรม ปีที่ ๕๖ ฉบับที่ ๔ ตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๖๐
P. 28
๑ ๒
แม่น�้าน่านไปด้วย และนี่คือท่วงท�านองที่คนทั่วไปรู้จักกันในนาม ว่าพลางพ่อครูก็หยิบปินประจ�าตัวขึ้นมาบรรเลง พร้อมกับ
“ซอล่องน่าน” หมายถึงการล่องแพมาตามแม่น�้าน่านในการอพยพ กล่าวว่า ไม่เคยเบื่อที่จะดีดปินเลยสักครั้ง ตลอดระยะเวลาตั้งแต่
ครั้งนั้นนั่นเอง พ่อครูอรุณศิลป์สันนิษฐานว่า วงสะล้อ ซอ ปิน ก็น่าจะ เด็กล่วงเข้าวัยชรา ปินคือเพื่อนคลายทุกข์ ยามได้ดีดปินเล่นอยู่
มีต้นก�าเนิดจากแพล�าที่ ๗ ของปู่ค�ามาและย่าค�าบี้เช่นกัน กับบ้าน คือช่วงเวลาแห่งความสุขใจที่สุด
กาลเวลาผันผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปี ๒ ปีมานี้ พ่อครู เมื่อถามถึงเพลงที่ใช้ขับซอ พ่อครูบอกว่ามีประมาณ ๒๔ เพลง
รู้สึกได้ว่าความนิยมในการจ้างคณะซอลดน้อยถอยลงมากนัก เช่น เพลงไทลื้อ เพลงฤาษีหลงถ�้า เพลงพระลอเดินดง เพลงกล่อม
แปรเปลี่ยนไปเป็นการจ้างวงดนตรีที่อวดความหวือหวาของนักร้อง นางนอน เพลงเจ้าสุวัติ-นางบัวค�า เพลงปั่นฝ้าย ฯลฯ โดยเฉพาะ
จากยุคเฟื่องฟูของคณะซอที่ต้องรอนแรมออกไปแสดงนานนับเดือน เพลงปั่นฝ้ายนั้น คนดูจะชื่นชอบเป็นพิเศษ เพราะทางคณะจะแสดง
โดยไม่ได้กลับบ้าน อาศัยนอนตามวัด หรือไม่ก็บ้านเจ้าภาพ ทุกวันนี้ ท่าทางประกอบด้วย ท�าให้ไม่รู้สึกเบื่อ และที่สะกดผู้ชมอีกอย่างหนึ่ง
เดือนหนึ่งมีงานแค่ราว ๆ ๑๐ งานเท่านั้น โดยงานจะชุกช่วงเดือน ก็คือ ช่วงที่มีการฟ้อนแง้น และนี่คือเหตุผลว่าท�าไมคณะซอแต่ละคณะ
มกราคม-มิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงก่อนเข้าพรรษา ช่วงนี้แต่ละคณะ จึงต้องมีผู้หญิง ซึ่งนอกจากจะท�าหน้าที่ขับซอแล้ว ก็ต้องมีช่างฟ้อน
จะรับงานบวชเป็นส่วนใหญ่ ครั้นออกพรรษาก็จะเป็นงานกฐิน สาว ๆ รูปร่างหน้าตาชวนมอง เป็นสีสันให้คณะซอได้อย่างดี
งานผ้าป่า สนนราคาก็ว่ากันไปลดหลั่นตามระยะทาง งานในพื้นที่ แม่ครูยิ้มขณะพ่อครูอธิบายค�าว่า ฟ้อนแง้น ค�าว่า “แง้น”
เขตตัวเมืองน่าน ราคาประมาณ ๓,๐๐๐ บาท ต่างอ�าเภอคิดราคา หมายถึง แหงน หรือหงาย ฟ้อนแง้นก็คือการฟ้อนในท่าสะพานโค้ง
ประมาณ ๔,๐๐๐ บาท แต่ถ้าต่างจังหวัดส่วนใหญ่พ่อครูขอปฏิเสธ ซึ่งต้องอาศัยการฝึกฝน คณะซอทุกคณะจะต้องมีช่างฟ้อนที่
เนื่องจากอายุอานามที่มากขึ้น ท�าให้ไม่สะดวกในการเดินทาง ฟ้อนแง้นได้ เพราะคนดูจะชอบ ทั้งนี้เจ้าภาพหรือคนดูจะน�าเงิน
เหมือนแต่ก่อน (ธนบัตร) วางไว้ให้ช่างฟ้อนฟ้อนแง้น เมื่อหงายจนศีรษะจดพื้น
นอกเหนือจากงานแสดง พ่อครูยังมีหน้าที่สอนการเล่นสะล้อ ช่างฟ้อนจะใช้ปากคาบเงินขึ้นมา ถือว่าเป็นสินน�้าใจ
และปินให้เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านซาวหลวงทุกวันพฤหัสบดี โดย ว่างเว้นจากงานแสดงมาสักระยะหนึ่งแล้ว พรุ่งนี้คณะซอ
พ่อครูคิดรูปแบบตัวโน้ตเพลงเป็นระบบตัวเลข เพื่อให้เด็ก ๆ เข้าใจ อรุณศิลป์ได้รับการว่าจ้างให้ไปแสดงในงานบวชที่บ้านเด่น ซึ่งอยู่
ได้ง่ายขึ้น ทั้งยังบอกด้วยว่า ปินนั้นหากตั้งใจฝึกจริง ๆ วันหนึ่งอาจ ไม่ไกลเท่าไร แม่ครูจะเตรียมซิ่นลายน�้าไหลผืนสวยไว้สวมใส่ ส่วน
เล่นได้ถึง ๒ เพลงเลยทีเดียว นอกจากนี้หากช่วงไหนไม่มีงานแสดง พ่อครูชอบชุดพื้นเมืองอยู่แล้ว ด้านนักดนตรีกับช่างฟ้อนสาว ก็เป็น
ก็จะท�าสะล้อและปินเพื่อขายเป็นอาชีพเสริม โดยอาศัยประสบการณ์ ที่รู้กันว่าจะต้องสวมใส่ผ้าซิ่นและผ้าพื้นเมืองน่านด้วยเช่นกัน พรุ่งนี้
ในการฟังแล้วเทียบเสียง ซึ่งไม่เคยผิดเพี้ยน ปินจากไม้ประดู่พ่อครู คณะซออรุณศิลป์ ซึ่งประกอบไปด้วยทีมงาน ๖ คน จะไปเจอกัน
ว่าดีที่สุด เพราะให้เสียงหนักแน่น ที่บ้านเด่นแต่เช้า
26