Page 113 - Culture3-2017
P. 113
มากน้อยแค่ไหน และอย่างไร นอกจากนี้ยังมีค�าถาม กดดันจากภายนอก มนุษย์ส่วนใหญ่ก็ย่อมมีความรัก
ที่เกี่ยวกับแรงกดดันจากวัฒนธรรมที่มีอ�านาจต่อรอง และผูกพันต่อถิ่นฐานบ้านเกิด วิถีชีวิต ภาษา และ
มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นในเชิงการเมืองหรือเชิงเศรษฐกิจ วัฒนธรรมในครอบครัวและชุมชนของตนอยู่แล้ว
ที่อาจท�าให้คนรุ่นใหม่ต้องเผชิญกับสภาวะที่ต้อง หากเป็นไปได้พวกเขาย่อมรักษาอัตลักษณ์ของตน
เลือกสรรการ “ข้าม” วัฒนธรรมโดยรอบคอบ คงจะ เอาไว้ คงไม่มีใครที่คิดท�าลายสิ่งที่บรรพบุรุษและ
เป็นการดีหากเจ้าของวัฒนธรรมนั้นมีโอกาสเลือก ครอบครัวได้สร้างไว้เพื่อคนรุ่นหลัง ถึงแม้ว่ามีปัจจัย
เองว่าสิ่งใดที่จะอนุรักษ์สืบทอดไว้ เพราะวัฒนธรรม ที่ท�าให้คนละทิ้งถิ่นฐาน ละทิ้งรากเหง้าทางวัฒนธรรม
บางอย่างก็อาจเหมาะกับการร�าลึกถึงในสถานะ ของตัวเองด้วยเหตุผลหลากหลาย นับตั้งแต่การ
ของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในพิพิธภัณฑ์ และไม่ แทรกแซงโดยตรงจากอ�านาจภายนอก การเกิดการ
เหมาะสมกับยุคสมัยอีกต่อไป ตัวอย่างว่าด้วยวัฒนธรรม เคลื่อนย้ายของวัฒนธรรมที่มีอ�านาจมากกว่า สภาวะ
ที่ถึงแก่กาลอวสานก็มีมากมาย เช่น ทุกวันนี้มีหลาย สงคราม วิกฤตเศรษฐกิจ หรือแม้แต่สภาวะทาง
ภาษาที่ไม่ถูกใช้งานอีกต่อไป มีเทคโนโลยีมากมายที่ ธรรมชาติเอง แต่สิ่งส�าคัญที่ผู้มีอ�านาจเหนือกว่า
เลิกใช้ มีรายการอาหารบางประเภทที่มนุษย์ไม่ส่งเสริม สามารถท�าได้ คือการเปิดพื้นที่และเปิดโอกาสให้ทุกคน
ให้กินอีกแล้ว พิธีกรรมที่ทรมานหรือสังเวยชีวิตมนุษย์ สามารถเลือกหรือไม่เลือกการ “ข้าม” วัฒนธรรม
เพื่อถวายแก่สิ่งเหนือธรรมชาติกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย อย่างมีอิสรภาพ โดยเชื่อมั่นว่าโดยธรรมชาติทุกคน
แม้แต่งานศิลปกรรมบางประเภทก็มีให้เห็นเพียงวาระ ย่อมต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง และไม่
ที่พิเศษมาก ๆ หรืออาจไม่มีเหลือให้เห็นเลย พยายามใช้อ�านาจจากภายนอกเข้าไปแทรกแซงกดดัน
“แล้วเจ้าของวัฒนธรรมจะรู้ได้อย่างไรว่าจะ ให้เขาเกิดความรู้สึกดูแคลน หรือรู้สึกไม่ดีต่อวัฒนธรรม
รักษาอะไรไว้ โดยธรรมชาตินั้นหากไม่มีการแทรกแซง ที่มีคุณค่าอยู่แล้วของตนเอง”
กรกฎาคม-กันยายน ๒๕๖๐ 111