Page 26 - CultureMag2015-3
P. 26

ต่อมาเมื่อถึงยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จ                ให้ข้าราชการขุนนางแอบมีโขน ละคร มโหรี ปี่พาทย์ ของ
พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงฟื้นฟูส่ิงต่างๆ ที่เคยมี                 ตนเองอยา่ งแพรห่ ลาย  จนชน้ั แตพ่ ระยามหาเทพ (ทองปาน)
มาแตก่ รงุ ศรอี ยธุ ยาโบราณ นบั แตเ่ รอ่ื งการปกครอง บทกำ� หนด        ซ่ึงไปถูกจีนอ้ังยี่ยิงตายท่ีเมืองสาครบุรี (มหาชัย สมุทรสาคร)
กฎหมายพระอัยการ การพระศาสนา ศิลปวัฒนธรรม                              ยงั มเี รอื นแพหนา้ บา้ นไวเ้ ปน็ ทร่ี บั ประทานอาหารพระราชทาน
วรรณคดตี า่ งๆ ไพรบ่ า้ นพลเมอื งกค็ งโดยเสดจ็ ฯ ฟน้ื ฟสู บื ทอด      มมี โหรสี าวๆ หม่ ผา้ สที บั ทมิ  ไวบ้ �ำรงุ บำ� เรออารมณ ์ ขบั กลอ่ ม
สร้างสรรค์การมหรสพของตนข้ึนมาเหมือนกัน เช่นดนตรี                      อวดชาวเรือชาวแพเป็นที่ครึกครื้น  มหากวีสุนทรภู่เขียนไว้ใน
ประเภทเคร่ืองสายชาวบ้าน มีจะเข้ ซอด้วง ซออู้ ขลุ่ย ฯลฯ                แม ่ ก กา ของ กาพย์พระไชยสรุ ิยา ว่า 
อันมีมาแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์เป็นเจ้า เมืองลพบุรี 
ดังท่ี นิโกลาส์ แชรแวส ชาวฝรั่งเศสท่ีเข้ามาสมัยน้ันบันทึก             	   อยู่มาหมู่ข้าเฝ้า		  ก็หาเยาวนารี
ไว้ในหนังสือ ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและการเมืองแห่ง                     ทีห่ นา้ ตาดีด	ี 	       ทำ� มโหรีท่ีเคหา
ราชอาณาจกั รสยาม*                                                     ค่�ำเช้าเฝ้าสีซอ		       เข้าแต่หอลอ่ กามา

      สมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั  ทรงเคย                    มโหรจี งึ มไิ ดม้ หี นา้ ทเี่ พยี งขบั กลอ่ มใหห้ ลบั สบายอยา่ ง
เปน็ สามญั ชน หนอ่ เนื้อเชือ้ ไขชาวอมั พวาถ่ินฐานชาวเพลงอนั           แต่ก่อนแล้ว
เล่ืองชื่อมาแต่เก่าก่อน จนกระทั่งรุ่นหนุ่ม จึงทรงคุ้นเคยกับ
วัฒนธรรมชาวบ้านเป็นอย่างดี  ในรัชสมัยจึงพระราชนิพนธ์                        ครั้นล่วงมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า- 
บทละครนอกชนิด “เจ็บแสบ” หลายเรื่อง  มีการปรับปรุง                     เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ไม่ทรงห้ามปรามการมีละครผู้หญิงซ่ึง
เอาปี่พาทย์เข้ารับร้องเสภา เพ่ิมเคร่ืองดนตรีในวงปี่พาทย์              เคยเป็นของหวงห้ามเฉพาะในราชส�ำนัก ซ้�ำยังทรงสนับสนุน
ทั้งยังทรงช�ำนาญเป็นเลิศในการทรงซอสามสาย ดังปรากฏ                     ว่าท�ำให้บ้านเมืองครึกครื้น  มโหรีผู้หญิงจึงเส่ือมทรามลง   
เพลงพระราชนพิ นธ ์ บหุ ลนั ลอยเลอื่ น อนั เปน็ อมตะ โขนละคร           การคมนาคมกบั นานาประเทศโดยเฉพาะทางตะวนั ตกสะดวก
กไ็ ด้รบั การสง่ เสริมปรบั ปรุงเป็นอันมาก                             ขนึ้ กว่าแตก่ ่อน  การไหลบา่ ของวฒั นธรรมต่างแดนยอ่ มยงั ให้
                                                                      เกดิ ผลสะเทอื นเปน็ ธรรมดา  การมโหรคี งจะไดม้ กี ารปรบั ปรงุ
      รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวไม่โปรด               เปลยี่ นแปลงครงั้ ใหญท่ งั้ ภายในวงั และนอกวงั  มกี ารเพม่ิ เครอื่ ง
การดนตรีโขนละครฟ้อนร�ำอันเป็นเครื่องประโลมโลกย์ ทรง                   ดนตรีบรรดามีในวงปี่พาทย์และวงเครื่องสายเข้าไปรวมอยู่ใน
หนักแนน่ ศรทั ธาในการพระศาสนาเปน็ อุกฤษ  จงึ เปน็ โอกาส

     *แต่ในหนังสือ ต�ำนานเคร่ืองมโหรีปี่พาทย์ สมเด็จฯ กรมพระยาด�ำรง-

     ราชานุภาพ เสนอว่าวงเครื่องสายมามีขึ้นในรัชกาลที่ ๔  โดยเอาอย่าง
     ดนตรชี าวจนี  เมอ่ื วงมโหรผี ู้หญงิ เส่อื มทรามลง
24 วฒั นธ รม
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31