Page 110 - CultureMag2015-3
P. 110
หนงั ทส่ี รา้ งสำ� หรบั ฉายโรงจอใหญๆ่ มาดใู นจอเลก็ ๆ ไมม่ ที าง ฟังธรรมะ อ่านชาดก มีเรื่องรัก โลภ โกรธ หลง ชีวิตมนุษย์
ได้สิ่งเหล่าน้ัน ได้แต่ข้อมูล ยุคนี้เป็นยุคท่ีคนกระหายข้อมูล ทุกข์ยากทั้งหลาย หนังเพียง ๑–๑ ชั่วโมงคร่ึง เราสามารถ
อย่างเดียว ต้องการดูว่าเร่ืองราวมันเป็นยังไง แต่ไม่มีทางได้ เรียนรู้ประสบการณ์ของมนุษย์ บางทีท้ังช่วงประวัติศาสตร ์
สาระจริงๆ ของมัน ต้องใช้เวลา ต้องไปดูในสถานที่ หรือ หรือชั่วอายุของคน ท�ำให้เรารู้ทันชีวิตได้ เกิดความคิด เกิด
สถานการณ ์ ท่เี ขาตอ้ งการใหด้ ู ทรรศนะ และฉลาดข้ึนได้ คำ� ขวัญของหอภาพยนตร์ปัจจุบัน
จึงใช้ค�ำว่า “ภาพยนตร์ยังให้เกิดปัญญา” ตรงน้ีเราก็ได้แบบ
แต่อะไรท่ีในยุคนี้เกิดมาเป็นดิจิทัลก็ต้องรักษาเป็น อย่างมาจากหอภาพยนตร์สวีเดน ซึ่งทำ� เขาแบบน้ีเม่ือ ๔๐ ปี
ดิจิทัล แต่ในเวลาน้ีไม่มีใครรับรองว่าดิจิทัลจะอยู่ได้นานแค่ ที่แล้ว จนปัจจุบันกลายเป็นหลักสูตรภาคบังคับท่ีน่ัน คือ
ไหน ฟลิ ม์ มนั พสิ จู นด์ ว้ ยตวั มนั เองแลว้ วา่ ๑๐๐ ปมี นั อยไู่ ด ้ ใน นักเรียนในภาคบังคับของสวีเดนทุกคนต้องได้รับโอกาส
ทางวจิ ยั มนั สามารถเกบ็ ไดเ้ ปน็ พนั ปเี หมอื นกระดาษ แตต่ อ้ ง โรงเรียนต้องพาไปดูพิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ ไปฟังคอนเสิร์ต ไป
ควบคมุ ในหอ้ งอณุ หภมู ติ ำ�่ อยา่ งของเราใชท้ ี่ ๔ องศาเซลเซยี ส ดูละคร ไปดูหนังที่โรงซึ่งเป็นวิถีชีวิต ให้เด็กได้เรียนรู้ คุ้นเคย
ความชื้นต�่ำ ถ้าฟิล์มใหม่เอามาเก็บในห้องเย็นแบบน้ี ไม่ มีรสนิยมต้ังแต่เด็กๆ อนุบาล ที่ศาลายาเราได้เอามาใช้เป็น
รบกวนอะไร บางทีจะอยู่ได้เป็นพันปี แต่ทุกคร้ังท่ีนำ� ออกมา ต้นแบบ ขณะนี้มีโรงเรียนในนครปฐมกว่า ๗๐ โรงเรียนเป็น
ใชง้ าน อายุมันก็จะลดลง เครือข่ายของเรา ทุกเช้าโรงเรียนจะพานักเรียนมาดูตั้งแต่
เด็กอนุบาลจนมัธยมฯ เราก็เตรียมหนังเอากว่า ๒๐ เรื่องให ้
กิจกรรมต่างๆ ท่ีจัดที่หอภาพยนตร์ศาลายา ผลตอบรับ เหมาะกบั ช่วงวัยของเด็ก
เปน็ อย่างไร
ปัจจุบันโรงหนังแบบเดิมหายไปมากแล้ว รถโรงหนังจะช่วย
ดขี น้ึ เรอ่ื ยๆ เมอื่ กอ่ นจดั กจิ กรรมฉายหนงั จดั เสวนา เตมิ เตม็ ตรงจุดน้ไี ด้หรือไม่
คนบน่ วา่ ไกล ตา่ งจงั หวดั ดไู มไ่ ด ้ เรากพ็ ยายามจดั ในกรงุ เทพฯ
คือหอศิลป์กรุงเทพมหานคร เป็นห้องฉายเล็กๆ เป็น ปัจจุบันโรงหนังไม่ได้น้อยลง เพียงแต่มันไม่มี
“หน้าร้าน” ของเรา ตอนนี้เร่ิมมีคนมากข้ึน การคมนาคมก็ สแตนด์อะโลน (stand alone) มันกลายเป็นการผูกขาดด้วย
สะดวกข้ึน ถนนเริ่มขยาย จนสถานท่ีก็เริ่มเล็กไปแล้ว ทางท่ี ทุนนิยม เวลาน้ีเลยมีการเรียกร้องกับยูเนสโก ให้ข้ึนทะเบียน
จะแก้ปัญหาอีกอย่างคือมีโรงหนังเคล่ือนท่ี เป็นรถ เวลาเดิน ฟิล์มภาพยนตร์เป็นมรดกโลก เพื่อไม่ให้มีการหยุดผลิต
ทางก็เป็นเหมือนตู้คอนเทนเนอร์ขนาดยาว เม่ือไปจอดจะ เรียกร้องให้เมืองต่างๆ อย่างน้อยเมืองใหญ่ๆ ในโลกทุกๆ
ขยายปีกสองข้างออก กลายเป็นโรงหนังขนาด ๑๐๐ ท่ีนั่ง เมืองยังคงมีโรงหนังท่ีฉายด้วยฟิล์มอยู่ เพราะเขาบอกว่า
เชา้ ๆ กไ็ ปจอดทโ่ี รงเรยี น ตอนเยน็ กไ็ ปจอดใหช้ าวบา้ นด ู เปน็ ภาพยนตร์ที่ถ่ายหรือผลิตด้วยฟิล์มไม่เหมือนกับท่ีเป็นดิจิทัล
โรงหนังชุมชน สามารถไปถึงท้องถิ่นได้ท่ัวประเทศ แต่มันมี เป็นสื่อคนละอย่าง เหมือนกับภาพเขียนสีน�้ำมันกับสีน�้ำ
คนั เดยี วก็ต้องคอ่ ยๆ ไปทลี ะอำ� เภอ ทีละจังหวัด ถ้าโลกละท้ิงฟลิ ม์ ภาพยนตร ์ ส่งิ นจี้ ะหายไป ความงดงามของ
ฟิล์มคนในอนาคตจะไม่รู้จัก ซึ่งเป็นเร่ืองที่น่าเสียดาย มัน
โครงการรถโรงหนังไดแ้ รงบันดาลใจมาอย่างไร ทดแทนด้วยดิจิทัลไม่ได้ เพราะฉะนั้นตรงนี้หอภาพยนตร์จึง
โครงการยังเพิ่งเร่ิมได้ ๒ เดือน ตอนน้ีไปภาคกลาง ยังต้องขยายโรงหนังอยู่ฉายอยู่ เรามี ๑๒๐ ที่น่ังซ่ึงเล็กไป
โรงเรียนจะมากัน ๒๐๐–๓๐๐ คนก็ไม่ได้ ซ่ึงยังเป็นปัญหาอยู่
รถโรงหนังตอนเช้าที่ไปโรงเรียน เพื่อท่ีจะเป็นตัวอย่างให้ อกี ๒ ปีเราจะมโี รงหนัง ๔๐๐ ทนี่ ัง่
โรงเรียนและท้องถิ่น อบต. หรือเทศบาล ได้เห็นการใช้
ประโยชนจ์ ากภาพยนตรใ์ นฐานะเปน็ เครอื่ งมอื แหง่ การเรียนร ู้ การดูหนังในจอโทรทัศน์กับดูในโรงภาพยนตร์ บางคนมอง
เพราะผมเห็นว่าภาพยนตร์เป็นสื่อหรือเคร่ืองมือการเรียนรู้ วา่ ต้องใชส้ มาธติ า่ งกนั เพราะอะไร
ทด่ี ที สี่ ดุ รองจากภาษาพดู และเรามองวา่ การเรยี นรทู้ ส่ี ดุ ยอด
คือการเรียนรู้เร่ืองธรรมะ อะไรท่ีเราดูในหนังไม่ต่างกับเวลา
108 วฒั นธ รม