Page 46 - CultureMag2015-3
P. 46
งกู ินหางในละครดกึ ด�ำบรรพ์ รอ้ งล�ำงูกลนื หาง
พ่องู แม่เอยแมง่ ู เจ้าไปอยทู่ ่ีไหนมา
ครงั้ แผน่ ดนิ สมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาล แม่งู ฉันไปกินนำ้� หนา กลบั มาเม่ือตะกี้
ท ่ี ๕ เจา้ พระยาเทเวศรว์ งศว์ วิ ฒั น ์ (ม.ร.ว. หลาน กญุ ชร) ไดช้ ม พอ่ งู ไปกินน�้ำบอ่ ไหน จงบอกไปใหถ้ ้วนถี่
การแสดงละครโอเปร่าคราวเดินทางไปยุโรปเม่ือปี ๒๔๓๔ แม่งู ฉนั จะบอกบดั เด๋ียวน้ี
เม่ือกลับมาแล้วได้เล่าความประทับใจถวายสมเด็จฯ เจ้าฟ้า พอ่ งู บอกไปซีอย่าเนน่ิ ช้า
กรมพระยานรศิ รานวุ ดั ตวิ งศ ์ สมเดจ็ ทา่ นจงึ สนบั สนนุ ใหส้ รา้ ง แมง่ ู ไปกนิ น�้ำบ่อเอย ไปกินนำ�้ บ่อหนิ
คณะละครขึ้น โดยประยุกต์ให้เป็นแบบไทย จัดแสดงบนเวที ลูกงู ไปกนิ นำ้� บอ่ หิน บนิ ไปบินมา (ทวน)
เปลย่ี นฉากตามเนอ้ื เรอื่ ง ตวั ละครเปน็ ผรู้ อ้ งหรอื พดู ในบทของ แม่งู บินเอยบนิ รอ่ น ดังกนิ นรบนเวหา
ตนเอง ฯลฯ โรงละครของเจา้ คณุ ตงั้ ชอ่ื วา่ โรงละครดกึ ด�ำบรรพ์ ลกู งู รักเจ้ากินรา บนิ มาบินไปเอยฯ (ทวน)
และกลายเป็นชือ่ เรียกละครลกั ษณะนี้ตอ่ มา พอ่ งู เราจะขอถามอกี สกั หน่อย
แมง่ ู ถามอะไรบอ่ ยบอ่ ยไปทเี ดียว
ละครดึกด�ำบรรพ์เร่ิมแสดงครั้งแรกเม่ือปี ๒๔๔๒ พ่อง ู เออเมอ่ื เจ้าไปเท่ียว กนิ นำ�้ บ่อเดยี วหรือไฉน
จนเลกิ ไปในปี ๒๕๕๔ เรือ่ งหน่ึงทจ่ี ดั แสดงขนึ้ คอื เร่ืองอเิ หนา แมง่ ู เราไปกินอีกบ่อ หน่ึงหนาเจ้าพอ่ งใู หญ่
ตอนไหว้พระ (บุษบาเส่ียงเทียน) ตามท้องเร่ืองมีอยู่ว่า พอ่ งู ไปกนิ น�้ำบ่ออะไร จงบอกไปเรว็ เถดิ หนา
มะเดหวีพาบุษบาไปไหว้พระท่ีวิหารบนเขา โดยจุดเทียน แม่งู ไปกินนำ้� เอย กินนำ�้ บอ่ โศก
เสย่ี งทายขน้ึ สามเลม่ เพอ่ื เปน็ ตวั แทนของอเิ หนา บษุ บา และ ลูกง ู ไปกินนำ้� บอ่ โศก โยกไปโยกมา (ทวน)
จรกา จากนั้นให้บุษบาอธิษฐานต่อหน้าพระว่า หากชายใด แมง่ ู โศกเอยโศกเศรา้ คิดถงึ เจา้ ทกุ เวลา
ไม่ใช่เนื้อคู่ก็ขอให้เทียนดับ อิเหนาซึ่งซ่อนตัวอยู่จึงได้แอบเข้า ลูกง ู รักเจ้าพวงดอกโศก โยกมาโยกไปเอยฯ (ทวน)
มาดบั เทียนเลม่ ที่เปน็ ตัวแทนของจรกา
เจรจา
เมื่อน�ำมาเป็นบทละคร ได้เพิ่มฉากให้อิเหนานั่ง แมง่ ู กินหัวกินหาง
ชมการละเล่นงูกินหางของบรรดาเหล่าพี่เลี้ยงและกิดาหยัน พอ่ ง ู กินกลางตลอดตัว (ไล่)
(มหาดเล็ก) อยู่ก่อนที่บุษบาจะมาถึงวิหาร สมเด็จฯ เจ้าฟ้า
กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์นิพนธ์บทเพลง “งูกินหาง”
หรือ “งูกลนื หาง” ไว้ดังน้ี
< เดก็ เมอื งนายในรัฐฉาน
กับการละเลน่ ในลกั ษณะเดียวกบั “งกู นิ หาง”
(ภาพ : จากหนังสอื ไปสอบคำ� ไทย)
> “งกู นิ หาง” ของคณะนักร้องประสานเสียงสวนพลู
ท่รี วบรวมการละเล่นของเดก็ ไทย ทั้งงกู ินหาง รรี ีข้าวสาร
และมอญซอ่ นผ้า มาไวใ้ นเพลงเดยี วกนั
(ภาพ : คณะนักรอ้ งประสานเสียงสวนพล)ู
44 วฒั นธ รม