นิตยสารวัฒนธรรม ฉบับ ๓ ปีพ.ศ.๒๕๕๗ - page 105

105
กรกฎาคม-กันยายน ๒๕๕๗
ชุดผ้าแพรวาผสมผ้าชีฟองซิล
ความส�ำเร็จของโครงการส่งผลชาวบ้านอย่างมหาศาล
ผ้าไหมไทยและพิจิ ตราในระดั บนานาชาติ
อย่างแรกคือ ผ้าในโครงการศิลปาชีพจะสวยมาก
มีการพัฒนาต่อยอดความรู้ของชาวบ้ าน ส่งผลให้ชาวบ้าน
มีกินมีใช้ และวัฒนธรรมของเราก็จะไม่หายไปไหน ในเรื่อง
ของผ้ าก็จะมีทั้งแบบดั้งเดิ มและแบบมีการเรียนรู้พั ฒนาผ้า
ไปตามยุ คสมัย คื อ เรารู้ รากเดิมของเราแล้วก็พัฒนาต่ อ
ไปได้อีก อย่ างนี้พี่ว่ามันท�ำให้วั ฒนธรรมเราคงอยู่ด้ วย ซึ่ง
งานฝีมือของเรานั้นเป็นการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
สิ่งที่ พี่ท�ำนั้น นอกจากถวายงานรับใช้ในส่วนนี้แล้ว
พี่ ก็ ได้รั บเชิ ญไปท� ำแฟชั่นโชว์ ที่ มิลาน ประเทศอิ ตาลี
ครั้งแรกส�ำหรั บพี่ ตอนนั้ นก็ คิดว่ า ถ้ าใช้ผ้าในโครงการ
ศู นย์ ศิ ลปาชี พน่ าจะดีไม่ น้ อย จึ งไปเรี ยนท่ านผู้ หญิ ง
จรุงจิ ตต์ ทีขะระ ท่านก็ ให้การสนับสนุนเป็นอย่ างดี ท่าน
บอกว่ า “ไปเลื อกผ้าเลย ผ้ าจากชาวบ้านมี เยอะแยะ
ไปเลื อกมาเลย” แล้วพี่เจี๊ยบก็เอาสิ่งเหล่านี้มาท�ำ เราก็ ไป
โชว์ต่ างชาติในแบบวัฒนธรรมของเรา ก็ได้รับการตอบรับที่ดี
ได้มีรูปลงหน้ าหนึ่งหนังสือพิ มพ์ที่มิลาน ซึ่ งพี่ก็ ถือว่ าเป็น
ความภูมิใจลึกๆที่มีคนพูดถึง ท�ำให้ชาวต่างชาติรู้จักผ้าไหมไทย
มากขึ้น
ยิ่งพอเราได้ลงหน้ าปกหนังสื อยิ่งท�ำให้คนสนใจ
มากขึ้น ครั ้งหนึ่งมีฝรั่งถืองานของเราที่ลงหน้าปกหนังสือมา
โดยท่านเป็นภรรยาท่านทูตที่ เพิ่งมาประจ�ำการ ท่ านชอบ
และชมใหญ่เลย ซึ่งงานนี้พี่เจี๊ ยบใช้เวลาท�ำกว่า ๖ เดื อน
คื อบางทีเป็นผ้าของโครงการศิ ลปาชีพที่เราซื้อแล้ วเก็บไว้
แล้วเราก็เอาส่วนนั้นมาผสมส่วนนี้ บางผืนสีจัดจ้าน แตกต่าง
กันไป ซึ่งคอลเล็กชั่นนี้เป็ นผ้าชาวเขาล้วนๆ ในสมั ยก่อน
พี่จะท�ำผ้ าไหมแพรวา ผ้าไหมมัดหมี่ และอื่นๆ อีก ซึ่งก็จะมี
รูปแบบและเทคนิคการใช้ที่แตกต่ างกันไป