Page 55 - E-Book Culture 02_20182
P. 55

แต่ทุกวันนี้แม้ประเพณีเหยาจะยังคงอยู่  แต่ก็มีการ

           ปรับเปลี่ยนไปมากตามสภาพสังคม  เนื่องจากการแสวงหาผู้ที่
           สืบทอดเหยาจากสายเลือดที่เหมาะสมกลับเป็นสิ่งที่ยากยิ่ง
           คงเหลือแต่หมอเหยาที่เป็นผู้อาวุโสของชุมชนซึ่งพยายาม
           จะรักษาประเพณีแต่โบราณไว้ ไม่ต่างจากพิธีกรรมอื่นๆ ที่ถูก
           ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ กลายกลืนไป

               พิธีกรรมส่วนใหญ่ของกลุ่มชาติพันธุ์มักจะมีบทเพลง ดนตรี
           เสียงขับล�าน�า และการร่ายร�าเข้ามาเกี่ยวข้อง การเหยาก็เช่นกัน
           ที่ต้องอาศัยการสื่อสารด้วยเสียงเพลง การขับล�าน�า และเสียง
           ดนตรี การเหยานี้มีแคนเป็นเครื่องดนตรีส�าคัญประกอบการร้อง
           กลอนล�า  ในการติดต่อสื่อสารระหว่างหมอเหยากับผีหรือ    หมอเหยาท�าการรักษาผู้ป่วยด้วยประการต่างๆ เช่น ผูกแขน และรับขวัญ
           สิ่งศักดิ์สิทธิ์  กระบวนการเหล่านี้เองที่เรียกว่าการเหยา  ซึ่งมี

           ขั้นตอนรายละเอียดมากมาย อีกทั้งการเหยายังมีหลายรูปแบบ      ขั้นตอนการเหยาเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วบ  เริ่มจากจัด
               เหยา  มาจากความเชื่อว่าการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นนั้น   เครื่องคายและตั้งเครื่องคายส�าหรับพิธีการเหยาแล้วน�ามาวาง
           เกิดจากการกระท�าของผีหรือวิญญาณ  จึงต้องมีการเสี่ยงทาย ต่อหน้าหมอเหยา  เตรียมเครื่องแต่งกายของหมอเหยาและ
           จากหมอเหยา  ท�าพิธีคุมผีออก  ด้วยการร่ายร�าประกอบ  หมอแคน การบูชาครูและล�าเชิญผีลง เพื่อให้ผีมาเข้าทรงถาม
           เสียงแคน  นอกจากนั้นยังมีการเหยาเพื่อให้ขวัญและก�าลังใจ   อาการเจ็บป่วยจากผี เมื่อผีเข้าทรงแล้วก็จะมีการแต่งกายของ

           เหยาต่ออายุ เหยาเพื่อชีวิต  เหยาแก้บน เพื่อความเป็นสิริมงคล หมอเหยา แล้วท�าการเหยาไปตามท�านองของเสียงแคนประกอบ
           แก่ชีวิต  ครอบครัวญาติพี่น้อง  วงศ์ตระกูล  ในช่วงเทศกาล  การร่ายร�า
           งานส�าคัญๆ ของหมู่บ้านและชุมชน หรือกระทั่งฤดูกาลท�าการ    ล�าเหยาโต้ตอบกันระหว่างผีและหมอเหยาเพื่อถามผีว่า
           เกษตรกรรมก็ยังมีพิธีเหยาเพื่อให้ได้ผลผลิตอุดมสมบูรณ์  ต้องการอะไร  จะแก้ไขอาการเจ็บป่วยได้อย่างไรจะใช้
               เหยาเลี้ยงผี เพื่อขอบคุณผีบรรพบุรุษในรอบปี พิธีเช่นนี้ เครื่องเซ่นสรวงอะไรบ้าง โดยให้ญาติผู้ป่วยเป็นล่ามติดตามกับ
           จะกระท�าเพียงปีละครั้งเท่านั้นในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือน หมอเหยา เพื่อถามถึงสาเหตุและอาการเจ็บป่วยดังนี้

           มิถุนายน เพื่อขอขมาและสักการะผีที่ช่วยปกป้องคุ้มครองชุมชน    หมอเหยาตรวจดูความเรียบร้อย  ความถูกต้องของ
           ให้ปกติสุขไม่เกิดภัยพิบัติหรืออันตรายแก่ผู้คนในชุมชน      เครื่องคายที่ใช้ในการบูชาเครื่องเซ่นไหว้ หมอแคนเริ่มเป่าแคน
               ยังมีการเหยาในงานบุญประจ�าปี บุญผะเหวด โดยมีการ ให้จังหวะประกอบการเหยา หมอเหยาล�า (กลอนล�า) ร่ายกลอน
           เหยาปีละครั้งติดต่อกันทุกๆ  ปี  พอครบสามปีจะเว้นช่วงของ เชิญผีมาถามสาเหตุของการเจ็บป่วย  ญาติผู้ป่วยมอบสุราขาว
           การประกอบพิธีเหยาในงานบุญประจ�าปีนี้ไปหนึ่งปี แล้วจึงกลับ ให้หมอเหยาประมาณครึ่งขวด  หมอเหยาจะต้องดื่มเหล้า

           มาท�าพิธีกรรมอีกครั้งเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ            ประมาณหนึ่งจอก หมอแคนดื่มหนึ่งจอก
               การประกอบพิธีกรรมเหยา จะงดเว้นไม่ท�าในวันพระข้างขึ้น
           และข้างแรม ๘ ค�่า กับ ๑๕ ค�่า จะประกอบพิธีการเหยาเฉพาะ เสี่ยงทายวิงวอน

           เวลาพลบค�่าหรือเวลาเย็นเป็นต้นไป  ไม่นิยมกระท�าพิธีใน     หากแต่การเชิญผีมาถามถึงสาเหตุความโกรธแค้น เพื่อให้
           ช่วงบ่าย เพราะชาวผู้ไทมีความเชื่อว่าช่วงเวลาบ่ายเป็นเวลาใน ผีไม่ท�าร้ายผู้ป่วย ก็ไม่ใช่การเอ่ยปากถามกันตรงๆ หมอเหยา
           การเคลื่อนศพไปป่าช้า ไม่มีความเป็นสิริมงคล สถานที่ในการ จะมีวิธีการถามผีด้วยการเสี่ยงทาย  โดยใช้เครื่องประกอบ

           ประกอบพิธีการเหยารักษาคนป่วยจะใช้บ้านของผู้ป่วย  พิธีกรรมบางอย่างเช่น  ไข่  และข้าวสาร  โดยการเอาข้าวสาร
           ในการท�าพิธี  หรือถ้าเป็นการประกอบพิธีเหยาประจ�าปีของ โรยลงไปในไข่แล้วนับจ�านวนเม็ดข้าวสาร  ถ้ามีข้าวสารติดอยู่
           ชุมชนก็จะใช้สถานที่ที่เป็นศูนย์กลางของชุมชน          บนไข่จ�านวนคี่แสดงว่าผู้ป่วยจะหายป่วย  ถ้าข้าวสารติดอยู่

                                                                                              เมษายน - มิถุนายน ๒๕๖๑  53
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60