Page 47 - วารสารวัฒนธรรม ปีที่ ๕๖ ฉบับที่ ๒ เมษายน - มิถุนายน ๒๕๖๐
P. 47

ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์การเล่นหลายอย่างสืบสานต่อมา  ประมาณหนึ่งคืบ จากนั้นจึงแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายตี
            จากสมัยอยุธยา มีการเล่นที่นิยมหลายอย่างสอดคล้องกับสถานการณ์ (หรือฝ่ายรุก) และฝ่ายรับ จ?านวนผู้เล่นจะเป็น ๒ คู่ ๓ คู่ หรือ
            บ้านเมืองในเวลานั้นที่ยังมีศึกสงคราม ราชส?านักจึงส่งเสริมการเล่น  คู่เดี่ยวก็ได้
            ที่สามารถต่อยอดรับใช้บ้านเมืองได้ในยามจ?าเป็น อาทิ ชกมวย
            ขี่ม้า ขี่ช้าง พายเรือ ฝึกฝนการต่อสู้ป้องกันตัว รวมทั้งฝึกอาวุธ  วิธีการเล่น
            ต่าง ๆ เช่น ดาบ กระบี่ พลอง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จึงกลายเป็นการเล่น  เริ่มต้นด้วยการเดาะลูกหึ่มเพื่อหาฝ่ายตีและฝ่ายรับ โดย
            และกีฬาพื้นบ้านที่ชาวบ้านทั่วไปนิยมเล่นไปในที่สุด แต่ก็มีการเล่น  เอาไม้แม่ที่เตรียมมาเดาะไม้ลูก ใครเดาะได้จ?านวนครั้งมากกว่า
            อีกหลายอย่างที่นิยมเล่นกันแต่เพียงในหมู่เด็ก ๆ เพื่อความสนุกสนาน  ผู้นั้นจะเป็นผู้เริ่มเล่นก่อน (กติกาหาผู้เล่นก่อนหลังไม่ได้เป็นกฎ
            เสริมสร้างสุขภาพ เช่น การละเล่นที่เรียกว่า “ไม้หึ่ม”  ตายตัว หรือในบางที่อาจจะใช้วิธีจับไม้สั้นไม้ยาว) วิธีการเล่นของ
                  ไม้หึ่มมีรูปแบบที่ต้องอาศัยกฎกติกาในการเล่น อุปกรณ์  ฝ่ายตีนั้นมีสองแบบ คือ การงัดไม้ลูกและการตีไม้ลูก

            การเล่นคือ ไม้แม่ และไม้ลูก แรกเริ่มผู้เล่นต้องหาไม้ที่มีขนาด   เมื่อแบ่งฝ่ายได้แล้ว ให้ฝ่ายตีขุดดินเป็นรางสั้น ๆ (หรือ
            พอเหมาะกับตัวเอง ซึ่งควรเป็นไม้สดเพราะมีความเหนียวไม่หักง่าย หลุม) ลึกประมาณสองนิ้ว จากนั้นเอาไม้ลูกวางพาดขวางไว้บนหลุม
            เวลาเล่น ไม้แม่ควรมีความยาวเกินหนึ่งศอก ส่วนไม้ลูกมีความยาว ที่ขุด ฝ่ายรับต้องสังเกตดูว่าฝ่ายตีนั้นวางไม้ลูกไว้ในทิศทางใด














































           ๔


                                                                                            เมษายน-มิถุนายน ๒๕๖๐    45
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52