Page 39 - วารสารวัฒนธรรม ปีที่ ๕๖ ฉบับที่ ๒ เมษายน - มิถุนายน ๒๕๖๐
P. 39
๒
เศรษฐีได้ฟังจึงกล่าวว่า เรามีสมบัติเป็นอันมาก ไฉนท่านจึงหมิ่นเรา รุกขพระไทรก็มีความกรุณา เหาะไปขอบุตรแก่พระอินทร์เพื่อจะให้
นักเลงสุราจึงตอบว่า ท่านมีสมบัติมากก็จริง แต่หามีบุตรไม่ ถ้าท่าน แก่เศรษฐี
ถึงแก่ความตายแล้ว สมบัติก็จะเสื่อมสูญเปล่า เรามีบุตรชาย ๒ คน “แผ่น ๓ ว่า รุกขพระไทรขอบุตรแก่พระอินทร์ พระอินทร์
มีฉวีวรรณดุจทอง เห็นว่าประเสริฐกว่าท่าน เศรษฐีได้ฟังก็มีความ จึงให้ธรรมบาลเทวบุตรลงมาปฏิสนธิในครรภ์ภรรยาเศรษฐี ครั้งถ้วน
ละอาย จึงบวงสรวงแก่พระจันทร์ พระอาทิตย์ ตั้งอธิษฐานขอบุตร ทศมาสก็คลอดจากครรภ์ บิดามารดาให้ชื่อธรรมบาลกุมาร แล้วจึง
ถึง ๓ ปีก็มิได้บุตร ปลูกปราสาท ๗ ชั้นให้กุมารอยู่ที่ใต้ต้นไทรริมฝั่งน?้านั้น ครั้นกุมาร
“แผ่น ๒ ว่า เมื่อเศรษฐีขอบุตรแก่พระจันทร์ พระอาทิตย์ เจริญขึ้นก็รู้ภาษานก แล้วเรียนไตรเพทจบเมื่ออายุ ๗ ขวบ ก็ได้เป็น
มิได้แล้ว วันหนึ่งเป็นคิมหันตฤดูเจตมาส คนทั้งหลายเล่นนักขัตฤกษ์ อาจารย์บอกมงคลการต่าง ๆ แก่มนุษย์ทั้งปวงชาวชมพูทวีป ขณะนั้น
ต้นปีใหม่ทั่วชมพูทวีป คือ พระอาทิตย์ก็จากราศีมีนประเวศสู่เมษราศี โลกทั้งหลายนับถือท้าวมหาพรหมและกบิลพรหมองค์หนึ่ง ได้ส?าแดง
โลกสมมติว่า วันมหาสงกรานต์ ขณะนั้นเศรษฐีจึงพาบริวารไปยัง มงคลแก่มนุษย์ทั้งปวง
ต้นไทรริมฝั่งน?้า อันเป็นที่อยู่แห่งปักษีชาติทั้งหลาย จึงเอาข้าวสาร “แผ่น ๔ ว่า เมื่อกบิลพรหมแจ้งเหตุนั้น จึงลงมาถามปัญหา
ล้างน?้า ๗ ครั้ง แล้วหุงขึ้นบูชารุกขพระไทร พร้อมด้วยสูปพยัญ- ๓ ข้อแก่ธรรมบาลกุมารว่า เวลาเช้าศรีอยู่ที่ไหน เวลาเที่ยงศรีอยู่ที่ไหน
ชนาหาร ประโคมดุริยางคดนตรี ตั้งอธิษฐานขอบุตรแก่รุกขพระไทร และเวลาค?่าศรีอยู่ที่ไหน ถ้าท่านแก้ได้เราจะตัดศีรษะเราบูชาท่าน
เมษายน-มิถุนายน ๒๕๖๐ 37