Page 33 - CultureMag2015-3
P. 33
ลกู กระพรวนท่มี ลี ักษณะใกลเ้ คยี ง ปะอาว : บา้ นปล่อยนอ้ ง
กับงานชา่ งยุคก่อนประวัตศิ าสตรน์ ้ี
เปน็ เสมอื นหลักฐานเช่ือมโยง “ผู้เฒ่าผู้แก่แต่เก่าเพ่ินกะมาแต่หนองบัวลุ่มภู สมัย
รากเหงา้ ของงานช่างฝีมอื ชาวปะอาว ท้าวค�ำผงพุ่นละ่ ”
ว่าสบื ทอดความรมู้ าตงั้ แต่
สมัยบ้านเชยี ง บญุ ม ี ลอ้ มวงศ ์ เลา่ ถงึ ประวตั คิ วามเปน็ มาของหมบู่ า้ น
ว่า บรรพบุรุษของชาวปะอาวอพยพย้ายถ่ินมาแต่เมือง
เวียงจันทน์ เมื่อครั้งที่พระวอพระตาน�ำไพร่พลอพยพจาก
กรุงศรีสัตนาคนหุตมาต้ังบ้านท่ีหนองบัวลุ่มภู ภายหลังเกิด
ศึกสงครามจนท�ำให้พระวอพระตาตายในที่รบ ท้าวค�ำผง
บุตรของพระตา ได้น�ำพาไพร่พลหนีมาตั้งถิ่นฐาน ณ ห้วย
จาระแม ที่ตงั้ ของจงั หวดั อบุ ลราชธานปี ัจจบุ ัน
พ่อขุนใหญ่และพ่อขุนน้อยอพยพติดตามมากับท้าว
ค�ำผงด้วย ท้ังสองชักชวนผู้คนส่วนหน่ึงให้แยกย้ายออกไปหา
ท่ีท�ำกินและลงหลักปักฐาน เมื่อพบทำ� เลเหมาะ ขุนใหญ่ผู้พี่
ไดย้ กใหข้ นุ นอ้ ยผนู้ อ้ งปกั หลกั อย ู่ จงึ เรยี กหมบู่ า้ นนต้ี ามคำ� ลาว
อีสานว่า “ป๋าอาว” (“ป๋า” แปลว่าปล่อยทิ้ง “อาว” หมายถึง
น้องชาย) ซ่ึงกลายมาเป็นบ้านปะอาว ส่วนขุนใหญ่ผู้พี่ได้
ไปลงหลักปักฐานที่บ้านโพนเมือง เขตอ�ำเภอม่วงสามสิบ
จังหวดั อุบลราชธานี
ตุลาคม-ธนั วาคม ๒๕๕๘ 31