Page 32 - CultureMag2015-2
P. 32
“ผา้ ขาวมา้ หา้ ส”ี (แดง เหลอื ง สม้ เขยี ว ขาว) ชาวลพบรุ ี (โดย นยิ มทอลายตารางสแี ดง-ด�า หรอื เขยี วเขม้ ชาวมหาสารคาม
เฉพาะอา� เภอบ้านหมี่ ผลิตกันมากจนนับเป็นแหล่งใหญ่ทสี่ ุด (โดยเฉพาะบ้านหนองหิน) นิยมทอด้วยมือและใช้สีธรรมชาติ
ของประเทศ) นิยมทอด้วยใยสังเคราะห์ ลวดลายไส้ปลาไหล ชาวขอนแก่นนิยมทอลายหมี่กงอันเก่าแก่ วิจิตรตาด้วยการ
กับลายตาม่อง ส่วนชาวราชบุรีนิยมทอลายหมากรุกกับลาย ผสมผสานสมี ่วง-แดง-เขียว และทอแบบสามตะกอให้เน้ือผ้า
ตาปลา เปน็ ตน้ หนาแน่น ชาวอุดรธานี (โดยเฉพาะชุมชนดอนอีไข) นิยม
ทอลายขัดพนื้ ดว้ ยด้ายสีขาว-ดา� เป็นต้น
ทภี่ าคอสี านนิยมทอลายตารางเล็กด้วย “กีก่ ระตุก”
และทอยาวคราวละ ๒๐ - ๓๐ เมตร ค่อยตัดแบ่งผืนละ ๑ วา ขณะทภี่ าคเหนือจะนิยมทอด้วยฝ้าย ย้อมสีด้ายจาก
คนอสี านบางถิ่นจึงเหมาเรียกผ้าขาวม้าว่า “แพรวา” (มาจาก เปลือกไม้กลัด ประดู่ มะเกลือ ใบสัก เป็นต้น และทอลาย
คา� วา่ ผา้ และความยาวของผา้ ) แพรขาวมา้ ของอสี านนยิ มทอ ตารางหมากรุกโดยเพิม่ เทคนิคการ “จก” ลวดลายสัตว์บน
เปน็ สเ่ี หลย่ี มจตั ุรสั คลา้ ยตารางหมากรกุ โดดเดน่ ท่ีลายไสป้ ลาไหล ชายผ้า เรียกว่า “ผ้าขาวม้ามีเชิง” ชาวแพร่นิยมจกลายนก
กับลายเครือลิ้นแลน ชาวศรีสะเกษนิยมทอด้วยฝ้าย (โอกาส ชา้ ง มา้ ฯลฯ สว่ นชาวนา่ นนยิ มจกลายสตั วแ์ ละเพม่ิ ลายเจดยี ์
พิเศษจึงใช้ไหม) ปรกติใช้ด้ายสองสามสีขัดเป็นลายตาราง กับลายยกดอกบ้าง สมัยก่อนนิยมทอสีแดง-ดา� ปัจจุบันนิยม
หมากรุก ชาวสุรินทร์ (โดยเฉพาะในอ�าเภอเขวาสินรินทร์) ทอสเี ขยี ว ฟา้ หรอื น้า� ตาล
30 วฒั นธ รม