Page 24 - CultureMag2015-2
P. 24
กใ็ นระยะไมช่ า้ ไมน่ านมาน ้ี มผี ศู้ กึ ษาเรอ่ื งความเปน็ มา จะว่าด้วยหน้าทีแ่ ละรูปแบบของการประกอบวงของ
ของซอสามสายทีน่ ่าสนใจยิง่ ด้วยท่านเป็นผู้เชีย่ วชาญใน ซอสามสาย การขึ้นคู่เสียงของสายนัน้ เป็นแบบโบราณสังคีต
การสีซอสามสายท่านหนึ่ง คือ ศาสตราจารย์อุดม อรุณรัตน ์ โดยแท้ คือขึน้ ขั้นเสียงคู่สีแ่ บบเดียวกับกระจับปี่และจะเข้ ซึง่
ศษิ ยเ์ อกของ พระยาภมู เี สวนิ (จติ ร จติ ตเสว)ี ทา่ นสบื คน้ และ ทา� ใหเ้ กดิ เสยี งประสานกบั เสยี งหลกั เปน็ ธรรมชาตแิ บบโบราณ
ศกึ ษาไดว้ า่ ซอของอาหรบั -เปอรเ์ ซยี ชนดิ หนง่ึ ท่ีเรยี กวา่ “รบบั ” โดยน�้าเสียงของซอสามสายสามารถเลียนเสียงคนขับได้
เป็นต้นแบบและส่งอิทธพิ ลแก่ซอสามสายของเราเป็นอันมาก ค่อนข้างสนิทสนม ท�าให้ผู้ขับร้องสามารถขับได้ยาวนาน
แต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทเี ดียว เช่นซอสามสายของไทยเรา โดยไม่ผิดเสียงและบันไดเสียง ครัน้ คนขับบทใดท่อนใด
ปรับเปลี่ยนเพิ่มสายขึ้นจากสองเป็นสามสาย และใช้สายไหม ซอสามสายก็สามารถบรรเลงทา� นองเดินทีเ่ ป็นลักษณะพิเศษ
เปน็ สายซอแทนสายลวดโลหะ รวมถงึ สรา้ งกะโหลกซอใหเ้ ปน็ ของตนได ้ อยา่ งเชน่ การขบั ไมใ้ นพระราชพธิ สี มโภชชา้ งเผอื ก
พสู ามเสา้ ดงั กลา่ วมาแลว้ แตต่ น้ เร่อื งซอสามสายน้จี งึ เปน็ มติ ิ หรือช้าลูกหลวง เห่กล่อมในพระราชพิธีขึน้ พระอู่ของเจ้านาย
ทนี่ ่าสนใจใคร่ครวญศึกษาต่อ น่าสรรเสริญชืน่ ชมในความ ชั้นเจ้าฟ้า มีคนขับคนหนึง่ คนสีซอสามสายคลอคนหนึ่ง คน
กล้าหาญรักรู้ของท่าน ด้วยเป็นการเพิ่มพูนความรู้ในการ ไกวบณั เฑาะวค์ นหนง่ึ นา่ จะเปน็ รปู แบบการบรรเลงท่ีเกา่ แก่
ศึกษาเรื่องดนตรขี องเราอยา่ งล้า� คา่ ทส่ี ุดท่ีหลงเหลืออยู่ก็เปน็ ได้
จะแปลกอย่างไรเมือ่ ครั้งกรุงศรีอยุธยา คนอาหรับ- ก็แล การเล่นหรือบรรเลงซอสามสายนัน้ มีวิธีการใช้
เปอรเ์ ซยี ตดิ ตอ่ ท�ามาคา้ ขายกบั เรามาชา้ นาน การแลกเปล่ยี น คนั ชกั และการใชน้ ้วิ เพอ่ื เรยี กเสยี งวจิ ติ รพสิ ดารซบั ซอ้ นเกนิ กวา่
ความรทู้ างวชิ าการตา่ งๆ มอี เนกประการ หลายส่งิ หลายอยา่ ง ซอชนิดอื่น อาจจะเป็นด้วยความเก่าแก่ทีไ่ ด้รับการพัฒนา
ซึง่ เราน�ามาปรับใช้จนเป็นของเราเอง เช่นเสือ้ ครุยทีเ่ ป็น ปรับปรุงมาติดต่อกันเป็นเวลานาน นอกจากนัน้ ยังมีการ
เครอ่ื งประกอบพระราชอสิ รยิ ยศทา้ วพระยามหากษตั รยิ ์ จนถงึ ประสานเสียงโดยสีสายคู่ทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ การใช้คันชักและ
การแตง่ องคเ์ จา้ นาค จนถงึ การสวมประกอบวทิ ยฐานะในการ นิว้ มีชื่อเรียกเฉพาะ เช่น สีแบบไกวเปล สีแบบฉุยฉาย นิว้ ชุน
รับปริญญาของสถาบันอดุ มศึกษาหลายแห่ง กระทงั่ ถึงพวก นิว้ แอ ้ เป็นตน้
ทรงเจา้ เขา้ ผที ่ใี ชก้ นั เกรอ่ ในทกุ วนั น้ ี หรอื แกงมสั มน่ั ซ่งึ สบื ตอ่
มาจนเรยี กไดว้ า่ เปน็ อาหารประจา� ชาตเิ รากม็ คี วามเปน็ มาโดย หากใชค้ นั ชกั และน้วิ ไมถ่ กู ตอ้ งจะไมไ่ ดเ้ สยี งตามตอ้ งการ
เดยี วกนั น ้ี ไมเ่ หน็ จะเสยี ความเปน็ คนไทยท่ตี รงไหน มแี ตเ่ หน็ ท�าให้เสียรสชาติของเพลงไปมากมาย เฉพาะการสีประสาน
ด้านพัฒนาอารยะ ประจักษ์ถึงความเฉลียวฉลาดทสี่ ามารถ สายคู่ ถา้ ไมไ่ ด้ศกึ ษาและทา� เกนิ พอดี จะรกหูเปน็ ทีส่ ดุ
มาปรับใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการ จน
สนิทสนมเป็นเนอ้ื เดียวกนั พ้นจากความตะขิดตะขวงนับดว้ ย ผู้ทีเ่ ล่นซอสามสายทีม่ ีชื่อเสียงและมีคุณูปการในอดีต
รอ้ ยป ี ดงั ทีร่ ูเ้ ห็นและยอมรบั กันโดยท่วั ไป ระยะใกล้และปัจจุบันมีจ�านวนทีน่ ับถ้วน เช่นทีเ่ ป็นพระบรม-
วงศ์หรือองค์พระมหากษัตริย์ก็มี พระบาทสมเด็จพระพุทธ-
เร่อื งซอสามสายน้ยี งั ควรศกึ ษาโดยใชห้ ลกั ฐานภายนอก เลศิ หลา้ นภาลยั สมเดจ็ ฯ เจา้ ฟา้ กรมพระยาบา� ราบปรปกั ษ ์
จากประเทศเพื่อนบ้านใหม้ ากขึน้ ดว้ ย โดยเฉพาะทางกมั พูชา พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงบดนิ ทรไพศาล พระเจา้ บรม-
ซึง่ มีซอสามสาย เรียกว่า “ตรัวขะแมร์” (ซอเขมร) ดร. อุทิศ วงศ์เธอ กรมหมืน่ ทวิ ากรวงศ์ประวัติ พระองค์นี้มีทางเดี่ยว
นาคสวัสดิ ์ เคยเล่าไว้ว่าครูของท่านคือคุณหลวงประดิษฐ์- เพลง “สุดสงวน” เฉพาะพระองค ์ และทรงถนัดซา้ ย
ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ซึง่ เคยไปสอนดนตรีทีก่ ัมพูชา
ได้แนะน�าการใช้นิว้ บางอย่างตามแบบของเขา ซึง่ เป็นผลด ี ทีโ่ ด่งดังและมีพระคุณูปการยิ่งคือ สมเด็จฯ เจ้าฟ้า
ต่อคุณภาพเสียงของซอสามสาย เรื่องนีห้ ากมีผู้ติดตาม กรมพระนครสวรรคว์ รพนิ ติ
คน้ ควา้ ตอ่ ก็หมายได้ว่าคงจะเพ่ิมพูนความรใู้ หแ้ ก่เราย่งิ ๆ ข้ึน
พระอาญามิพ้นเกล้าฯ ในรัชกาลนีก้ ็มีพระราชขัตติย-
นารีพระองค์หนึ่ง ซึง่ ทรงเป็นหลักชัยร่มโพธิไ์ ทรไพศาลแก่
เหล่านักดนตรีไทย คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยาม-
22 วัฒนธ รม