Page 90 - CultureMag2015-1
P. 90

ลงหลักปกั ฐาน

           ท�านอง รุ่งสีทอง ครูช่างวัย ๗๕ ปี “คนดีศรีเมืองชล” 
     (๒๕๓๗) และผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม (ช่างทอง) 
     ปี ๒๕๓๘ จากศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี  เล่าว่า บิดาชื่อ
     นายซินเหลีย่ น แซ่ลี ้ เป็นชาวจีนแคะทีเ่ ดินทางออกจากเมือง
     จีนในช่วงแร้นแค้น มาพักอยู่กับพี่ชายทเี่ ดินทางเข้ามาก่อน
     และพา� นักอยูก่ ับกลมุ่ จนี แคะด้วยกันในแปดริว้  (ฉะเชิงเทรา)

           คนจนี แคะมกั ประกอบอาชพี ทางชา่ งฝมี อื  เชน่  ชา่ งตดั
     เสอ้ื  ชา่ งทา� รองเทา้  และชา่ งทอง  บดิ าจงึ มาเปน็ ชา่ งในรา้ นทอง 
     “แม่ยิ้ม” เช่นเดียวกับชาวจีนแคะอกี หลายคน  ต่อมาพีช่ าย
     บิดาทีเ่ รียกกันทวั่ ไปว่า “เจ๊กจมูกแดง” ย้ายมาตัง้ ถิน่ ฐานใน
     อ�าเภอพานทองอนั เป็นเขตติดต่อกับแปดริว้  จึงย้ายตามมา
     ด้วย 

           สมยั นน้ั คนสว่ นใหญย่ งั เรยี กยา่ นน้วี า่  “ทา่ ตะกดู ” และ
     รับรู้กันว่าเป็นตลาดขนถ่ายสินค้าทางการเกษตรจากเขต
     อ�าเภอพนัสนิคมมาลงทางน�า้ ในคลองทเี่ ป็นสาขาของแม่น�า้
     บางปะกง 

           ก่อนปี ๒๕๐๐ พานทองยังเป็นกลุ่มบ้านร้านตลาด
     เล็กๆ รายล้อมไปด้วยพืน้ ทีท่ �านา ครั้นเก็บเกีย่ วเสร็จแล้ว
     ชาวนาก็จะมาซื้อทอง  คนพานทองรู้จักบิดาของครูทา� นอง
     จากค�าว่า “อาสุก” ซึ่งเป็นค�าเรียกอาผู้ชาย (น้องชายพ่อ) 
     ในภาษาจีนแคะ เลยพากันเรียกว่า “อาสุข” หรือ “ลุงสุข” 
     ในภาษาไทย แต่ชือ่ ทีท่ า� ให้คนรู้จักมากกว่าก็คือ “แม่เกียว” 
     ภรรยาของลุงสุข  ผู้รับรองลูกค้าอยู่หน้าร้านทองทีใ่ หญ่ทสี่ ุด
     ในพานทอง เมื่อสิน้ ฤดูเก็บเกีย่ วข้าวคือช่วงปลายปีต่อต้นปี 
     ผ่านตรุษจีน ไปจนถึงสงกรานต์ ลูกค้าร้านทองจะคึกคักเป็น
     พิเศษ

  เกิดในพานทอง

           เด็กชายทา� นอง รุ่งสีทอง เกิดปี ๒๔๘๓ เมือ่ จบ ป. ๔ 
     อายุ ๑๓ ปี ก็เริ่มฝึกหัดงานช่างทองโดยสืบทอดจากบิดา  พี่
     น้องทัง้ หมดเจ็ดคน ชายห้า หญงิ สอง ได้รับการฝึกให้ทา� ทอง 
     ทุกคน ยกเว้นพีส่ าวคนโตทตี่ ้องดูแลงานบ้าน ด้วยความท ี่

88 วัฒนธ รม
   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95