Page 80 - CultureMag2015-1
P. 80
ครูทองร่วงก็เริ่มชีวิตช่างปนู ปั้นจากการต�าปนู ด้วย เหน็ งานอกี หลายชน้ิ ในจติ รกรรมฝาผนงั ตลู้ ายรดน้า� ท่ศี ลิ ปนิ
เชน่ กนั มคี รพู ณิ เปน็ “ครใู หญ”่ ฝกึ สอนงานชา่ ง และครทู องรว่ ง ครชู า่ งโบราณไดส้ อดแทรกทัศนคตทิ างสงั คมลงไวอ้ ยา่ งนา่ ทง่ึ
ยงั เลา่ วา่ งานปนู ปน้ั ของครโู บราณท่ีเหลอื คา้ งอยตู่ ามวดั ตา่ งๆ งานท้งั หมดไดจ้ ดุ ประกายใหช้ า่ งทองรว่ งพฒั นางานปูนปน้ั ของ
คือ “ครู” ทีด่ ีทีส่ ุดด้วยเช่นกัน ลายปูนปั้นรูปพุทธประวัต ิ ตนให้ลงตัวด้วยศิลปะไทยมาตรฐานอันวิจิตร ผสมผสานด้วย
ปราสาทเจด็ ช้นั ศาลา เชงิ ผา ภเู ขา ตน้ ไม ้ ท่โี บสถร์ า้ งวดั ไผล่ อ้ ม ทศั นคติทางสังคม การเมือง และวัฒนธรรมท้องถิ่นเพชรบุรี
ซึง่ มีมาแต่สมัยอยุธยา มองผาดๆ ราวช่างเพิ่งหันหลังจาก อย่างมเี อกลักษณเ์ ฉพาะตน
ไปหมาดๆ เหมือนภาพถูกทงิ้ ค้างยังไม่เสร็จสิ้น แต่แท้จริง
แลว้ งานชดุ นค้ี อื ตน้ แบบของชน้ั เชงิ การใชเ้ กรยี งปาดไปปาดมา ครูทองร่วงได้เริม่ ปั้นรูปชาวนา กรรมกร ชนชั้นผู้ใช้
ลีลากึง่ ธรรมชาติงดงามยิง่ เมื่อต้องแสงจะเกิดเงาซับซ้อน แรงงานกับนักศึกษาไว้ทีฐ่ านพระวัดใหม่ธรรมรังสี ประมาณ
แสดงภาพลายลุ่มลึกลดหลั่นเป็นชัน้ ช่อง แสดงความเป็นเลิศ ช่วงปี ๒๕๑๗ ในยุคประชาธปิ ไตยเบ่งบาน ครัง้ ทีเ่ หตุการณ์
ในแนวคดิ และฝมี อื ของชา่ งไดอ้ ยา่ งเดด็ ขาด สว่ นลายมกรคาย- คุระอุทางการเมืองก�าลังรุนแรงขึ้นทุกขณะ เพียงไม่นานทาง
นาคและกลีบบัวงามประณีตทอี่ งค์ปรางค์วัดก�าแพงแลงนั้น กอ. รมน. ก็ส่งคนมาตรวจสอบและสั่งให้ทุบทงิ้ ด้วยเหตุผลว่า
ก็เปรียบเสมือนรากฐานทางศิลปะทผี่ ู้เป็นช่างและครูช่าง แม้จะไม่เข้าข่ายปลุกระดม แต่งานปนู ปั้นการเมืองเช่นนี้ก็ไม่
เพชรบุรี ต่างวนเวียนกันไปเพ่งพินิจ แลกเปลี่ยนความเห็น สมควรไปปรากฏอย่ใู นวดั !
วิพากษ์วิจารณ์ ค้นหาเคล็ดลับทีซ่ ่อนอยู่หลังลายปนู ทที่ �าให้
ภาพนนั้ คงความงามอยา่ งอมตะ ผา่ นกาลเวลามาแสนนาน หลังจากนั้นเพียงปีเศษ แม้ถูกกระทบแรงๆ ทางการ
เมืองจนถูกทุบงานทงิ้ แต่ครูทองร่วงก็ดูจะไม่สะทกสะท้าน
เมื่ออายุ ๑๘ ปี ช่างทองร่วงได้ลาสิกขาจากสามเณร ประมาณป ี ๒๕๑๘ ผลงานปนู ปน้ั ภาพ ม.ร.ว. คกึ ฤทธ ์ิ ปราโมช
น้อย อาศัยความรู้ครูพักลักจ�า เฝ้าสังเกตทดลองปั้นปนู เป็น แบกฐานพระพุทธรูปในวิหารวัดมหาธาตุของครูทองร่วงก ็
ลูกมือของครูพิณ อนิ ฟ้าแสง ท�างานปูนปั้นตามวัดวาต่างๆ ขึน้ หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ และหนังสือพิมพ์ฉบับอืน่ ๆ
ก่อนจะออกมารับงานเป็นนายช่างปูนปั้นรุ่นใหม่ไฟแรงของ ทว่ั ประเทศ
เมอื งเพชรฯ อยา่ งเตม็ ตัว ในชว่ งนเ้ี องท่ีชา่ งทองรว่ งไดพ้ บผล
งานปูนปั้นชั้นครูของวัดสระบัวทที่ �ากันมาตงั้ แต่สมัยอยุธยา โดยปรกติช่างไทยโบราณจะสร้างงานปนู ปั้นฐานพระ
จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ช่างทองร่วงถ่ายทอดทศั นะ เปน็ ภาพยกั ษแ์ บก ครฑุ แบก เพราะพระพทุ ธรปู คอื ตวั แทนของ
ทางการเมืองลงในผลงานศิลปะของตน ผลงานนั้นก็คืองาน คุณความดี ขณะทผี่ ู้แบกหมายถึงผู้รับภาระของประเทศชาต ิ
ปูนปน้ั รปู ฝรง่ั ตา่ งชาตจิ มกู โดง่ ผกู ผา้ พนั คอชดั เจน กา� ลงั แบก ครทู องรว่ งจงึ นา� ใบหนา้ นกั การเมอื งชอ่ื ดงั อยา่ ง ม.ร.ว. คกึ ฤทธ์ิ
ฐานเสมา แทรกอยู่ระหว่างรูปยักษ์ เป็นหลักฐานบอกเล่าว่า ท่เี ปน็ นายกรฐั มนตรชี ว่ งน้นั ไปแบกฐานพระไวด้ ว้ ย นอกจากน ้ี
ครง้ั หนง่ึ ในปลายสมยั อยธุ ยา ไดเ้ คยมชี นชาตติ ะวนั ตกเดนิ เหนิ ในทีอ่ ืน่ ๆ ครูทองร่วงยังปั้นคนแบกฐานพระในใบหน้านักการ
มีชีวิตอยู่ในสยามประเทศ ภาพปูนปั้นชิ้นนีจ้ ึงเปรียบเสมือน เมืองคนอืน่ ๆ ทเี่ ราคุ้นชื่อคุ้นหน้ากันดีไว้ด้วย ซึ่งหากสังเกต
จดหมายเหตุแห่งยุคสมัย บันทกึ ทัศนะทีค่ นไทยยุคอดีตเคย สักนิดก็จะพบว่าบุคคลระดับเจ้านายและลูกน้องจะแบก
เหน็ วา่ ฝรง่ั เปน็ เดยี รถยี ต์ า่� ช้นั นอกพระพทุ ธศาสนา จนตอ้ งจบั ฐานพระแตกต่างกัน ราษฎรเต็มขัน้ ทัง้ ชาวนา กรรมกร
ไปรวมอยกู่ บั ยกั ษม์ ารอนั เปน็ ลา� ดบั ชวี ติ ต่า� สดุ อยตู่ รงฐานลา่ ง คนเฒ่าคนแก่ ล้วนแบกฐานพระสุดก�าลัง ส่วนปนู ปั้นรูป
คอยแบกใบเสมา ประดุจว่าต้องใช้ธรรมะกดทับไว้ จะได้ไม่ นกั การเมอื ง ขา้ ราชการ หรอื เจา้ นายชน้ั สงู ท้งั หลายจะท้งั แบก
ก�าเรบิ เสบิ สาน เหิมเกริมก่อความปน่ั ปว่ นข้ึนมาได้ ทงั้ โหนทงั้ ยึดฐานพระไว้อย่างมั่นคง อันแสดงให้เห็นแนวคิด
ของนายชา่ งผสู้ รา้ งงานวา่ ชนชน้ั สงู และขา้ ราชการนน้ั นอกจาก
สองรอ้ ยกวา่ ปมี าแลว้ ท่ีภาพฝรง่ั ฐานเสมาวดั สระบวั ถกู จะแบกภาระไมจ่ รงิ แลว้ ยงั คอยสบู เลอื ดสบู เนอ้ื ประชาชนดว้ ย
ท้งิ รา้ ง แดดฝนกดั ลายปนู กะเทาะสกึ กรอ่ น ครง้ั แลว้ คร้งั เลา่ ท่ี สัญลักษณ์ทีแ่ สดงให้เห็นผ่านภาพการโหนฐานพระอย่าง
ช่างทองร่วง เอมโอษฐ ได้แวะเวียนไปดูฝรัง่ คนนี ้ และยังมอง เอาเป็นเอาตาย ในขณะทผี่ ลักภาระหนักอึ้งไปให้ชาวบ้าน
ผู้แบกรับภาระตัวจริงของแผ่นดิน ส่วนด้านล่างของฐานยัง
78 วัฒนธ รม