Page 24 - CultureMag2015-1
P. 24

โลกปจั จบุ นั มคี วามบนั เทงิ ใหม ่ๆ ผดุ ขน้ึ มากมาย แตห่ นงั ตะลงุ    ท่ีทอ้ งสนามหลวง รว่ มกบั คณะหนุ่ นานาชาตจิ าก ๘๐ ประเทศ
ยังคงดึงดูดผู้คนให้อยู่กับรูปเงาบนจอผ้าได้เป็นค่อนคืนด้วย              ท่ัวโลก
มนตเ์ สนห่ ์เฉพาะตัวบางอยา่ ง ดังที่เคยเปน็ มานับร้อยปี
                                                                             สว่ นเร่อื งท่ีวา่ หนงั ตะลงุ อสี านไดแ้ บบอยา่ งมาจากไหน 
      ตามประวัตวิ ่า หนังตะลุงอีสานก�าเนิดขึ้นครัง้ แรกที่             มกี ารสนั นษิ ฐานกนั หลายแนวทาง สมมตุ ฐิ านหน่งึ วา่ หนงั ตะลงุ  
อบุ ลราชธานเี ม่อื ป ี ๒๔๖๙ ในช่ือคณะฟ้าบ้านทงุ่                       อสี านรปู แบบมาจากหนงั ใหญข่ องภาคกลาง หลกั ฐานสนบั สนนุ  
                                                                       แนวคิดนีค้ ือเครือ่ งดนตรีส�าคัญทใี่ ช้บรรเลงในการแสดงหนัง
      ถดั มาป ี ๒๔๗๖ หนงั ตะลงุ คณะบญุ มกี เ็ กดิ ข้นึ ท่จี งั หวดั    ประโมทยั เม่อื ชว่ งเรม่ิ แรก ไดแ้ ก ่ ระนาดเอก กลองตะโพน ฉง่ิ  
ร้อยเอ็ด  และต่อมาราวปี ๒๔๙๗ ก็มีคณะประกาศสามัคคี                      นัน้ เปน็ เคร่อื งดนตรีของมหรสพภาคกลาง
เกิดขึ้นอกี   ซึง่ คณะหลังนั้นยังคงเล่นต่อเนือ่ งมาจนปัจจุบัน 
ลา่ สดุ เม่อื ตน้ เดอื นพฤศจกิ ายน ๒๕๕๗ คณะประกาศสามคั คี                    แต่บางสมมุติฐานว่ารับแบบอย่างมาจากปักษ์ใต้ 
ยังมาร่วมแสดงในงาน “เทศกาลหุ่นโลก กรุงเทพฯ ๒๐๑๔”                       ตามเรอ่ื งเลา่ พน้ื บา้ นท่ีเลา่ สบื ตอ่ กนั มาวา่  เม่อื คร้งั ท่บี า้ นเมอื ง

22 วัฒนธ รม
   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29