Page 116 - E-Book Culture 02_20182
P. 116

เรื่องที่จด เป็นการจดตามที่รู้เห็นบ้าง จดตามค�าให้การบ้าง
          (เช่น จับเชลยมาถาม) หรือจดจากการสอบถามคนเก่าๆ บ้าง
          ปะปนกันไป สั้นบ้างยาวบ้าง (ดูหนังสือพระราชพงศาวดารฉบับ
          พระราชหัตถเลขา เล่ม ๑ ส�านักพิมพ์คลังวิทยา พ.ศ. ๒๕๑๖

          หน้า ๓๑)
              พระราชพงศาวดารเป็นหนังสือน่าอ่าน เพราะมีฉาก
          การผลัดแผ่นดิน ฉากการแย่งชิงราชสมบัติ ฉากความกล้าหาญ
          ของทหาร ฉากความรักความเกลียดชังในพระมหาราชวัง
          ฉากการสู้รบ และอื่นๆ เต็มไปหมด เสียแต่วิธีการจัดพิมพ์
          แบบเก่า ไม่ค่อยมีสารบัญดีๆ ไม่ค่อยมีย่อหน้า ไม่มีดัชนีค้นค�า

          และไม่มีค�าอธิบาย ท�าให้อ่านล�าบากเสียสายตามาก คนทั่วไปจึง
          ไม่ค่อยอ่านพงศาวดารกัน
              ตัวอย่าง
              พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา เล่ม ๒
          หน้า ๑๐๑ กล่าวตอนหนึ่งว่าเมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

          (ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. ๒๑๙๙-๒๒๓๑) ขึ้นไปปราบเชียงใหม่นั้น
          ได้ทรงสังวาสกับราชธิดาของเจ้าเมืองเชียงใหม่ ครั้นราชธิดา
          เจ้าเมืองเชียงใหม่มีครรภ์ก็ทรงละอายพระทัย คิดว่าเอาไปเลี้ยง
          ในพระราชวังก็จะเป็นที่อับอายแก่พระสนมทั้งปวง จึงมอบนาง
          ให้พระเพทราชา จางวางกรมช้างไปช่วยดูแล
              พระเพทราชาผู้นี้เป็นชาวบ้านพลูหลวง แขวงเมืองสุพรรณบุรี

          มีความช�านาญในศิลปะศาสตร์ และมีบุญญาธิการมาก
              เวลาผ่านไป เมื่อพระเพทราชาตามเสด็จพระนารายณ์ขึ้น
          ไปนมัสการพระพุทธชินราช เมืองพิษณุโลก ได้น�าราชธิดา
          เชียงใหม่ซึ่งก�าลังมีครรภ์ไปด้วย ที่สุดพระราชธิดาก็ไปประสูติ
          บุตรชายที่ ต.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ได้นามว่าเจ้าเดื่อ

              เจ้าเดื่อนั้น ทีแรกไม่รู้ว่าตนเป็นพระราชโอรสของสมเด็จ
          พระนารายณ์ จนวันหนึ่งพระชนกอยากให้นายเดื่อรู้ว่าตัวเป็น
          พระราชโอรส จึงด�ารัสสั่งให้เจ้าพนักงานเชิญพระฉาย (กระจก)
          มาตั้งส�าหรับทรงส่อง แล้วกวักพระหัตถ์เรียกนายเดื่อมหาดเล็ก
          เข้าไปใกล้ๆ แล้วด�ารัสสั่งว่า








     114
   111   112   113   114   115   116   117   118   119   120   121