Page 25 - Culture3-2016
P. 25








เปน็ ตน้ ๓. บทเพลงเบด็ เตลด็ ตา่ งๆ ทมี่ ที า นองรวดเรว็ เรง่ เรา้ ให้ หรือใช้บทร้องเก่าๆ ที่จดจา กันมา ซึ่งมีประมาณ ๒๒๘ ทา นอง 

ความสนกุสนานใชเ้ปน็บทขบัรอ้งในโอกาสทวั่ๆไปทานองเพลง เพลง มีมากจนบางทานองไม่มีใครสามารถจาได้เพราะไม่มี 

มีหลายทานองเช่นอมตูกกัจปกาซาปาดานกันเตรยโมเวย- การจดบนัทกึเป็นลายลกัษณ์อาศัยเพียงการจดจาต่อๆกนัมา 


งูดตึก กะโน้ปติงต้อง และมลบโดง เป็นต้น
เท่านั้น

ประเภทสุดท้ายเป็นบทเพลงประยุกต์ที่พัฒนาขึ้นใน แม้เนื้อเพลงจะถูกถ่ายทอดด้วยภาษาเขมรสูงยากที่ 


ปัจจุบัน มีการใช้ทานองเพลงลูกทุ่งเข้ามาปรับเป็นทานอง คนต่างถิ่นจะเข้าใจ แต่ก็รู้สึกได้ว่าเสน่ห์ของกันตรึม อยู่ที่ 

กันตรึม เช่น ดิสโก้กันตรึม ร็อกกันตรึม สัญญาประยุกต์ และ ความสนุกเร้าใจของเสียงกลอง เสียงซอที่ดาเนินทานองไป 

เตียแขมประยกุต์
พรอ้มกบัเสยีงปอ่ีอ้ทค่ีลอใหร้สคาฟงัดจูบัใจแมไ้มร่รู้สความกต็าม


ลักษณะของเน้ือเพลงกันตรึม จานวนคาแต่ละวรรค 
เส้นทางของกนัตรมึวันวานถงึวันน้ี
ไม่จากัดบทเพลงหนึ่งมี๔วรรคแต่ละบทไม่จากัดความยาว 

สัมผัสระหว่างบท บางบทก็มีบางบทก็ไม่มี ส่วนใหญ่ไม่นิยม กันตรึมแบบด้ังเดิม ท่ีเช่ือว่าเริ่มแรกใช้ในพิธีกรรม 


ร้องเป็นเร่ืองราวแต่มักคิดคากลอนให้เหมาะสมกับงานที่เล่น
โจลมะม็วดบองบ็อด ซึ่งเป็นการทรงเจ้าเข้าผีเพื่อรักษาผู้ป่วย























































๒



23
กรกฎาคม-กนั ยายน ๒๕๕๙ 



   23   24   25   26   27