Page 24 - Culture3-2016
P. 24
๑ เพลงไหว้ครูร้องบรรเลงหลังจาก
พิธีไหว้ครูเสร็จสิ้น
๒ เครื่องดนตรีง่ายๆ ไม่สลับซับซ้อน
ทา ใหว้ งกนั ตรมึ สามารถเคลอื่ นไป
บรรเลงร้องราได้ทุกพื้นที่ และ
ไม่จากัดอยู่เพียงบนเวทีการแสดง
๑
การแต่งกายมักนิยมแต่งตามสบายหรือแต่งตามประเพณีนยิม ที่ก่อนจะเล่นต้องไหว้ครูเพื่อให้เป็นสิริมงคลแตกต่างกันแค่
ของท้องถิน่ ปัจจุบนับางวงกเ็ปล่ยีนมาเป็นกระโปรงสนั้
เนื้อร้องกนัตรึมเป็นภาษาเขมร
บทรอ้ งกนั ตรมึ หรอื ทเี่ รยี กวา่ ‘ตรอนกุ๊ ’ ชอื่ บทรอ้ งอาจใช้ สภาพความเปลย่ี นแปลงในสงั คมปจั จบุ นั ทาใหท้ กุ อยา่ ง
เรียกชื่อทานองเพลงด้วย ไม่ว่าเป็น ตรอนุ๊กอมตูก [บทร้อง
ต้องปรับตัว เคร่ืองดนตรีก็ปรับเปลี่ยนวัสดุ จากหนังสัตว์ขึง
หน้ากลองก็เปล่ียนเป็นหนังสังเคราะห์หรือผ้าใบสายซอท่ีเคย พายเรือ]ประรัญแจก[ดอกลาเจียก]กนัจญัเจก[เขียดตะปาด]
ใชส้ายไหมกก็ลายเปน็สายลวดจากเบรกจกัรยานเพราะทนทานหรอืกันโน๊บติงตอง[ตก๊ัแตนตาข้าว]เพลงกนัตรึมไม่มีเนอื้ร้อง
กว่า คันชักซอจากหางม้าก็ใช้เส้นเอ็นแทน บ้างก็ใช้เอฟเฟ็กต์ เฉพาะ สว่ นใหญก่ ลา่ วถงึ วถิ ชี วี ติ การทา นา การหาเลยี้ งครอบครวั
กีตาร์พัฒนาเป็นซอไฟฟ้า ปรับเสียงสายซอด้วยเกรียวโลหะ ค่านิยมในสังคม อุปมาอุปไมย เชิญขวัญ ล่าลา เล่าตานาน
แบบกีตาร์แทนลูกบิดไม้ นับเป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านท่ีปรับตัว หรอื นทิ าน แขง่ ขนั ปฏภิ าณไหวพรบิ ราพงึ รา พนั หรอื บทสงั่ สอน
ไปได้อย่างไม่ขัดเขนิ
คตเิตอืนใจโบราณหรอืแม้แต่พรรณนาความงามของธรรมชาติ
ปัจจบุนัปรบัเป็นการเล่าเรอ่ืงของวยัรุ่นมากขึน้
ก้าวขา้มภาษาของคา
หากจัดแบ่งประเภทครูเพลงกันตรึมจะแบ่งเป็น๔
สู่ภาษาของดนตรี
ประเภท คือ ๑. บทเพลงชั้นสูงหรือเพลงครู ที่มีความไพเราะ
ทานองเพลงอ่อนหวานกินใจ แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธ์ิ บทร้องและทานองเพลงกันตรึมได้รับอิทธิพลมาจาก
เช่น เพลงสวายจุมเวื้อด ร่าเป็อย-จองได ๒. บทเพลงสาหรับ เพลงปฏพิ ากยข์ องเขมรในประเทศกมั พชู า ซงึ่ มลี กั ษณะคลา้ ยคลงึ
ขบวนแห่ มีทานองครึกครื้นสนุกสนาน ภายหลังมีการฟ้อนรา กับเพลงปฏิพากย์ภาคกลางของประเทศไทยอย่างเพลงฉ่อย
ประกอบ เช่น ราพาย ซมโปง ตร็อบตุม และเกาะเบอรมแบง
เพลงเรือ หรือลาตัด ทั้งโครงสร้างของเพลง วิธีการแสดง
22