Page 15 - Culture3-2016
P. 15











































๒



๑ แกงเลียง แกงโบราณที่เก่าแก่ชนิดหน่ึง ปรงุ แต่งรสเผด็ ร้อนจากพริกไทย 
๒ผลไมต้ามฤดูกาลล้วนนําามาทาําอาหารไดเ้ชน่ยําาสม้โอจานน้ี









เกลือนอกจากจะใช้ปรุงรสเพื่อให้ความเค็มแล้วท่ีสา คัญ คือ ตระกูลบุนนาคท่ีสืบเชื้อสายมาจากเปอร์เซีย ซ่ึงเข้ามายัง

กวา่ นนั้ คอื เกลอื ชว่ ยถนอมและแปรรปู อาหาร เกลอื ใชใ้ นการหมกั สยามตั้งแต่ปลายแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่ง

เนือ้ หมักปลาเพอื่ ทาเคม็ ตากแห้ง ทา น้าปลา และปลาร้า
กรุงศรีอยุธยา อาหารจากกะทิท่ีข้ึนชื่อที่สุดคือ แกงมัสม่ัน

เผด็
ตารับแกงเผ็ดในตาราแม่ครัวหัวป่าก์จึงมีทั้งแกงเผ็ดที่ไม่ใส่

กะทิอย่างแกงป่าและแกงทเ่ีข้ากะทิ รสเผ็ดแต่ดั้งเดิมของไทยคือรสเผ็ดร้อนท่ไีด้จากพรกิไทย

เคม็
ดปี ลี มะแขวน่ และเถาสะคา้ น พชื หลายชนดิ กม็ นี า้ มนั หอมระเหย 


และรสเผ็ดนิดๆ เช่น ใบกะเพรา ใบยี่หร่า ใบชะพลู กระเทียม รสเค็มในอาหารไทยได้จาก เกลือ น้าปลา กะปิ ปลาร้า

ขิง ข่า ขมิ้น และกระชาย พืชเหล่าน้ีเป็นพืชพ้ืนถ่ินของไทย
ถ่ัวเน่า พุงปลาหมัก และน้าบูดู เมื่อมนุษย์รู้จักเกลือก็เป็น 

การเปล่ียนแปลงโลกของอาหารในอดีตผู้คนจึงเดินทางไกล
ต่างจากรสเผด็ของพริกทเี่ป็นพชืต่างถ่นิพริกเทศนี้น่าจะเข้ามา

และสู้รบกันเพ่ือได้ครอบครองแหล่งเกลือ เกลือมีบทบาท สู่เมืองไทยพร้อมกับชาวโปรตุเกสในช่วงคริสต์ศตวรรษท่ี ๑๕ 

สา คญั ในครวั ทวั่ โลกรวมถงึ ครวั ไทย คนแถบชายทะเลในจงั หวดั นบั จากนนั้ พรกิ กเ็ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของครวั ไทยอยา่ งแนบแนน่ เสยี จน 


๓ สมุทร เพชรบุรี และปัตตานีรู้จักนา น้าทะเลมาตากแดดจน นึกไม่ออกว่าหากขาดพริกไปจะทา อาหารไทยได้อย่างไร

เป็นผลึกเกลือสมุทร คนบนภูเขารู้จักต้มเกลือจากน้าดินเค็ม อาหารไทยโบราณต่างๆ ที่ยังกินกันอยู่จนถึงทุกวันน้ีที่มี 

เป็นเกลือสินเธาว์มาตั้งแต่อดีตอย่างน้อยก็ร่วมสมัยกับสุโขทัย รสเผ็ดอย่างอดีตตวัอย่างทเ่ีหน็ได้ชัดที่สุดคอืแกงเลียงต้มกะทิ 


เช่น ทบี่ ่อเกลอื เมอื งน่าน
ต่างๆ ที่ใช้รสเผ็ดร้อนของพรกิ ไทย


13
กรกฎาคม-กนั ยายน ๒๕๕๙ 



   13   14   15   16   17