Page 85 - Culture1-2016
P. 85
คนก็ชอบ เพราะไม่ต้องอ่านนาน เพราะเด็กรุ่นนี้พอเขียน ซึ่งได้ลงอีก แล้วได้รวมเล่มบทกวีปี ๒๕๒๘ คือ “ลําานําา
ยาวไปเริ่มไม่อ่านอย่าง“จิบใจจอกจ้อย”เขียนเหมือน วเนจร”โดยสําานักพิมพ์สู่ฝันของพิบลูศักดิ์ละครพลและ
ขึ้นบทเดียวเอาให้คมให้รู้เรื่องเลยหรือ“คิดไมถ่งึจะคิดถงึ “คําาใดจะเอ่ยได้ดังใจ”โดยสําานักพิมพ์เทียนวรรณของ
ถึงเพียงนี้ คิดไม่ถึงใจจะมีท่ีคิดถึง เพียงแค่คิดไม่คิดว่า อาทร เตชะธาดา
จะตราตรึงคดิท่ีน่ีอกีทหี่นงึ่คดิถงึกนั”คือแค่นี้เวลาไปพูด ชว่งทผี่มเขยีนประจําาในสยามรฐัสปัดาหวจิารณ์ในยคุ
ที่ไหน วัยรุ่นชอบ
ของพี่รุ่งเรืองปรีชากุลผมได้พื้นที่เขียนในคอลัมน์“มอืแห่ง
สันติภาพ ตีนแห่งสงคราม” เป็นการเขียนบรรยายภาพ
จากจดุ เรมิ่ ตน้ จนปจั จบุ นั ภาพรวมงานทงั้ หมดของ จากสําานักข่าว AP ส่วนใหญ่เป็นมุมต่างๆ ของทหารและ
คณุ มเี อกลกั ษณแ์ ละเกดิ ความคลคี่ ลายไปอยา่ งไรบา้ ง สงครามในปีนัน้ จนกระทัง่ มาถึงม้าก้านกล้วย ที่บรรณาธิการ
เมื่อบริบทของสังคมและวิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงไป
จตุพล บุญพลัด รวมเล่มพิมพ์ที่อมรินทร์ฯ เป็นงานที่ค่อนข้าง
คลี่คลายของผม แต่ยังมีกลิ่นแบบเพื่อชีวิตอยู่ บางคนบอก
ผมมีงานเขียนทั้งร้อยกรองและร้อยแก้ว เริ่มชอบ ว่าสาเหตุที่ทําาให้ม้าก้านกล้วยได้ซีไรต์เพราะเป็นงานที่ลงตัว
ร้อยแก้วมาก่อนร้อยกรองด้วยซ้ําาไป ผมเขียนเรื่องสั้นมาก่อน ที่สุดแล้ว ตอนเขียน “คําาใดจะเอ่ยได้ดังใจ” ยังค่อนข้างแข็ง
ไดล้งตพีมิพป์ี๒๕๒๒ในหนงัสอืชยัพฤกษ์ชอื่“ฟา้ยงัไมม่ดื” และไม่คลี่คลายในขณะที่ม้าก้านกล้วยเริ่มมีความเป็น
เป็นเพื่อชีวิตเลย หลังจากเรื่องสั้นได้ลง ผมจึงส่งกลอนไป
วรรณศิลป์ มีความเป็นตัวเอง
83
มกราคม-มนี าคม ๒๕๕๙