Page 83 - Culture1-2016
P. 83
มา้ กา้ นกลว้ ย กวนี พิ นธร์ างวลั ซไี รต์ ทาํา ใหส้ าธารณชน แต่เมื่ออ่านแล้วเราชอบ รู้สึกว่าไพเราะนั่นคือบทบาทของ
รูจ้กั ไพวรินทร์ขาวงามอยา่งกว้างขวางพูดได้หรอื วรรณศิลป์ เหมือนเพลงเก่าร้อยปี ยิ่งเก่าเรายิ่งชอบ
ไมว่ า่ เนอื้ หาของหนงั สอื เลม่ นสี้ ะทอ้ นเรอื่ งราวในชวี ติ
เพราะฉะนนั้ ถามวา่ เนอื้ หาของมา้ กา้ นกลว้ ยตอบโจทย์
ของคณุไดใ้กล้เคยีงทส่ีุด
สังคมปัจจุบันไหมอาจจะไม่ได้ตอบอะไรแต่มันให้สุนทรีย์
ให้อารมณ์ มันบอกถึงยุคสมัยหนึ่งของตัวเรา ตัวผมเอง หรือ
นบั ถงึ วนั นี้ มา้ กา้ นกลว้ ย อายรุ ว่ ม ๒๐ ปแี ลว้ จดุ เรมิ่ ตน้ กระทั่งผู้คน เหมือนผมเป็นตัวแทนของคนยุคนั้น อย่างเรื่อง
ในการทําาม้าก้านกล้วย เกิดจากการวางความคิดรวบยอด ลกู อสี าน ของคณุ คาํา พนู บญุ ทวี ทไี่ มไ่ ดพ้ ดู ถงึ อสี านทงั้ ภาคนะ
พิเศษ ผมแบ่งแต่ละตอนคล้ายนิยาย ตอนที่ได้ซีไรต์ใหม่ๆ เป็นเฉพาะอีสานแถวแม่น้ําามูลแม่น้ําาชีที่บ้านเกิดท่าน เช่น
เคยมคี นตดิ ตอ่ มาจะเขยี นเปน็ บทภาพยนตร์ ผมบอกวา่ ผมไม่ เดยี วกนั มา้ กา้ นกลว้ ยเปน็ ภาพสะทอ้ นของเดก็ อสี านสว่ นหนงึ่
ถนดั ในเรอื่ งแบบนนั้ เพราะฉะนนั้ อาจจะพดู ไดว้ า่ มา้ กา้ นกลว้ ย
มีชีวิตของผมร้อยอยู่ในเรื่องราว คือผมเดินทางจากชนบทไป เช่นนั้นแล้ว คุณยังเชื่อม่ันว่าการกอบกู้ความ
ล่มสลายของชนบทและการโหยหาอดตีท่ีสะทอ้นใน
สเู่มอืงและคดิถงึชนบทดงันนั้ในภาคแรกของหนงัสอืจงึตงั้ชอื่
ว่า“แผ่นดินถิน่ทุ่ง”ส่วนภาคสองเป็น“แผ่นดินถ่นิเมอืง” “ม้ากา้นกล้วย”ยงัคงเป็นคําาตอบสาําหรับสงัคมไทย
และภาคสามเป็น“แผน่ดนิถ่นิใด”ในส่วนของภาคสามคือ
แผ่นดินของจินตนาการ แผ่นดินฝัน แผ่นดินอุดมคติ อะไร มนั ไมใ่ ชค่ าํา ตอบ แตเ่ ปน็ ปมความขดั แยง้ เพราะเงอื่ นไข
ก็แล้วแต่ ฉะนั้นโดยรวบยอดทั้งเล่มเนื้อหาของหนังสือจึง ทางเศรษฐกิจของเด็กต่างจังหวัดส่วนใหญ่ ทําาให้เมื่อจบ
ค่อนข้างแน่น
การศึกษาภาคบังคับแล้วไม่ได้เรียนต่อ ทําาให้เด็กหนุ่มสาวมี
แนวคิดของหนังสือเกิดขึ้นในยุคสมัยหนึ่ง (ราวๆ ปี ภาคบังคับขั้นต่อไป คือเข้าเมืองไปหางานหาเงิน แต่เดี๋ยวนี้
๒๕๓๒-๒๕๓๘) ซึ่งปัจจุบันสภาพสังคมอาจจะเปลี่ยนไปแล้ว โลกมันเปลี่ยน พอเด็กออกจากบ้านแล้ว การกลับบ้านไม่
ตอนนั้นผมอยู่ในโลกที่เพิ่งเริ่มรู้จักคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันจึง เหมือนเดิมแล้ว ถึงแม้ว่าภาพถวิลหาชนบทจะสวยงาม แต่
อาจจะเหมือนตกสมัยไปแล้ว แต่หากจะคิดแบบนี้ ผมลอง สงั คมชนบทกลบั เปลยี่ นไป มปี ญั หา มคี วามขดั แยง้ คนชนบท
เทียบกับการอ่านวรรณคดี บางครั้งมันไม่ใช่เรื่องตอบโจทย์ เสพรับวัฒนธรรมเดียวกับคนเมือง มีทีวีมีโทรศัพท์ทุกบ้าน
สมัยปัจจุบันอย่างเดียว เหมือนผมอ่านเรื่อง ขอบฟ้าขลิบทอง ของกนิ ของใชแ้ ละขยะลน้ หมบู่ า้ น ปญั หายาเสพตดิ ระบาดใน
ของ ‘อุชเชนี’ ซึ่งเขียนไว้ตั้งแต่ก่อนเราเกิด คือปี พ.ศ. ๒๔๙๖
หมู่วัยรุ่น เยาวชนอ่อนแอ
81
มกราคม-มนี าคม ๒๕๕๙