Page 48 - CultureMag2015-2
P. 48
แขง่ เรือในสยาม เข้าสู่ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยพระบาทสมเด็จ
จากความเชื่อส่กู ารแข่งขัน พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั รชั กาลท่ี ๒ เมอ่ื มกี ารสรา้ ง “สวนขวา”
ภายในพระบรมมหาราชวังเมือ่ ปี ๒๓๖๑ ก็โปรดเกล้าฯ ให ้
ในกรณสี ยาม การแข่งเรือปรากฏหลกั ฐานลายลักษณ์ มีการแข่งเรือในสระนั้น หรือในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ
อักษรเก่าทีส่ ุดคือกฎมณเฑียรบาลของอยุธยา ทีก่ ล่าวถึง พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที ่ ๕ ก็มีการจัดแข่งเรือ
พระราชพิธ ี “อาษยุชพิธ”ี ทจี่ ัดขึ้นในเดือน ๑๑ ซึง่ จะมีการ ให้พระราชอาคันตุกะ คือมกุฎราชกุมารแห่งจักรวรรดิรัสเซีย
แขง่ เรอื ดว้ ย ลาลแู บร ์ ราชทูตชาวฝรง่ั เศสท่ีเขา้ มายงั ราชสา� นกั (ตอ่ มาคอื พระเจา้ ซาร์นโิ คลัสท ่ี ๒) ทอดพระเนตร
ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช บันทกึ ว่าในการแข่งเรือนีม้ ี
การพนนั ขนั ตอ่ ปะปนอยดู่ ว้ ย และไดร้ บั ความนยิ มเปน็ อยา่ งมาก ปัจจุบันการแข่งเรือถือเป็นกีฬาทีป่ รากฏในท้องถิน่
หลายแห่งและมีกระจายอยู่ทกุ ภาค การแข่งเรือเป็นไปเพือ่
ในราชส�านักกรุงศรีอยุธยา พิธีกรรมคือเวทที กี่ ษัตริย ์ การกุศลในเทศกาลทางศาสนา เชน่ ทอดกฐิน ทอดผ้าปา่ ใน
ใชแ้ สดงบญุ ญาบารม ี เชน่ นา� เรอื ไปทา� พธิ ีกลางหว้ งนา้� ดว้ ยการ เดอื น ๑๐-๑๒ ซง่ึ เปน็ ฤดนู ้�าหลาก ประชาชนจะใชเ้ รอื ในการ
เห่กล่อมแม่น�้า ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นเห่เรือ (เชือ่ กันว่าเป็น สญั จรและนา� องคก์ ฐนิ และผา้ ปา่ ไปถวายวดั หลงั จากนน้ั จงึ มี
การเห่กล่อมแม่ย่านางเรือ) พัฒนาเป็นการพายเรือตามน�า้ การแข่งเรือกันโดยเชื่อว่าผู้เข้าแข่งขันจะได้บุญ บางท้องทกี่ ็
เพือ่ “ไล่น�า้ ” ให้ลดอย่างรวดเร็ว ต่อมาจึงกลายเป็นการ จัดให้มีการแข่งเรือในงานไหว้พระประจ�าปี ในงานบวงสรวง
“แข่งเรือ” เพื่อเสี่ยงทายว่าน�้าจะลดหรือไม่ โดยผู้ทีเ่ ข้าแข่งขัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของท้องถิน่ ในงานเทศกาลรืน่ เริงอื่นๆ โดย
คอื บรรดาขุนนางในราชสา� นกั ส่วนมากจะจัดในฤดูน�า้ มากเท่านัน้ และเป็นประเพณีทีม่ ี
กระจายแทบทกุ จังหวัด
เรือแขง่ ในเทศกำลบญุ สว่ งเฮอื ๑๑ ค่ำ� เดือน ๑๑ แมน่ ำ้� โขง นครหลวงเวียงจันทน ์ (ภาพ : สมสง่า ยาบ้านแป้ง)
46 วัฒนธ รม