Page 47 - CultureMag2015-2
P. 47
โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ชว่ งฤดนู ้า� หลาก ซง่ึ ตรงกบั เดอื น ๑๑
(นับแบบไทยตรงกับราวเดือนพฤศจิกายน) ตามท้องทุ่งจะ
เต็มไปด้วยน�้าปริมาณมหาศาล ซึ่งหากน�า้ ท่วมสูงยาวนาน
ขา้ วกลา้ ในนาและพชื พรรณธัญญาหารยอ่ มไดร้ บั ความเสยี หาย
แตถ่ า้ น้า� ลดลงตามเวลาท่ีควรจะเปน็ หลงั จากน้นั กค็ อื ฤดกู าล
เกบ็ เกย่ี วผลผลิต
พาหนะส�าคัญของผู้คนในวิถีชีวิตทีต่ ้องพึ่งพาสายน�้า
คือเรือ การสัญจรสมัยโบราณมีเส้นทาง “ไฮเวย์” คือแม่น�า้
สายส�าคัญ ในกรณีของผืนแผ่นดินใหญ่อุษาคเนย์ก็คือแม่น�้า
อริ ะวด ี แมน่ ้า� เจา้ พระยา แมน่ ้า� โขง และลา� นา�้ สาขาจา� นวนมาก
เรือแต่ละล�าจะมีขนาดใหญ่หรือยาวเพียงใดก็แล้วแต่ฐานะ
ทางสังคมของเจ้าของเรือ คนโบราณยังมีความเชื่อว่าเรือนัน้
คือ “นาค” ผู้พิทักษ์นา�้ และโลกบาดาล เมื่อต้องพึง่ พาเรือ่ งที่
เก่ยี วกบั น�า้ จงึ ตอ้ งใชเ้ รือส่อื สารกับนาคโดยตรง
เรือ่ งนีป้ รากฏหลักฐานอยู่บนมโหระทกึ (กลองส�าริด)
อายรุ าว ๒,๕๐๐ ปมี าแลว้ ท่ีพบกระจายอยทู่ ่วั ภมู ภิ าคอษุ าคเนย์
โดยบนหน้ากลองมีลวดลายของสิ่งทีด่ ูคล้ายกับเรือยาว นัก
โบราณคดีเวียดนามกับจีนสันนิษฐานว่านี่คือการแข่งเรือท ี่
เป็นส่วนหนึง่ ของพิธกี รรมโบราณเพือ่ เสี่ยงทายสอบถามเรือ่ ง
ปรมิ าณฝนและปรมิ าณน�า้
เรอื แขง่ เหลา่ นเ้ี ชอ่ื กนั วา่ นา่ จะมฐี านะเปน็ “เรอื ศกั ด์สิ ทิ ธ์”ิ
เป็นเรือส่งวิญญาณทีจ่ ะน�าพาผู้ตายไปอีกโลกด้วยรูปทรงเรือ
ทีค่ ล้ายงูหรือนาค และใช้แข่งเสีย่ งทายเป็นส่วนหนึ่งของ
พิธกี รรมเพ่ือความอดุ มสมบรู ณ ์
บางครง้ั หวั เรอื อาจเปน็ รปู นก สตั วศ์ กั ด์สิ ทิ ธ์ทิ ่เี ชอ่ื มโยง
ระหว่างโลกมนุษย์และโลกบาดาลกับท้องฟ้าทเี่ ชื่อว่าเป็น
ทางไปถึงยังสถานทีศ่ ักดิส์ ิทธิอ์ ีกแห่งหนึง่ ทีบ่ รรดาบรรพชน
ผลู้ ่วงลับจะไปพ�านักอยรู่ วมกัน
ปจั จบุ นั ประเพณแี ขง่ เรอื ยงั คงเปน็ ท่นี ยิ มในจนี ตอนใต้
เวียดนาม กัมพูชา และลาว แต่จุดมุ่งหมายก็ไม่ต่างจากใน
เมอื งไทยยคุ นค้ี อื เพอ่ื การพนนั ขนั ตอ่ เปน็ เกมกฬี าสรา้ งความ
สนุกสนาน หรอื ใชแ้ ห่กฐนิ
เมษายน-มิถนุ ายน ๒๕๕๘ 45