Page 110 - Culture4-2017 วารสารวัฒนธรรม ปีที่ ๕๖ ฉบับที่ ๔ ตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๖๐
P. 110
คุณมองการเดินทางของคนยุคนี้เปลี่ยนไป
จากยุคที่คุณเริ่มต้นเดินทางอย่างไร
เด็ก ๆ ยุคนี้กล้าเดินทางมากขึ้น สมัยเรา เราเดินทาง
คนเดียวเป็นเรื่องแปลกประหลาดในสังคมไทยมาก แต่ตอนนี้
เด็กเที่ยวคนเดียวกันเยอะ มั่นใจในตัวเอง เขาจะไปทุกที่ที่เห็น
ในสื่อและมันน่าสนใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือนักท่องเที่ยว
ไทยค่อนข้างฉาบฉวย ไม่ได้ลึกซึ้งกับทุกอย่าง อะไรที่อยู่ใน
กระแสฮิต ๆ เราจะไปถ่ายรูป อัพเฟซบุ๊กอวดเพื่อน ไลค์เยอะ ๆ
ก็แฮปปี้แล้ว ไม่รู้ด้วยซ�้าว่าเป็นมายังไง แต่เรามองว่าธรรมดานะ
ยุคนี้ค่อนข้างรวดเร็วในทุกเรื่อง อะไรที่สื่อสารตรง อัพปุ๊ป แชร์ปั๊บ
คนไลค์ เสร็จเลย จบ มันเร็ว
ดูเหมือนว่าเฟซบุ๊กจะมีผลอย่างยิ่งกับการ
เดินทางยุคนี้
สื่อที่มีอิทธิพลกับนักท่องเที่ยวมันเปลี่ยนไป สมัยก่อน
คือหนังสือท่องเที่ยว จนกระทั่งมาในยุคเว็บบอร์ด ยุคนี้ทุกอย่าง
คือเฟซบุ๊ก เด็กรุ่นใหม่เขาไม่อ่านหนังสือ ไม่ดูทีวี แต่เฟซบุ๊ก
มันเข้าตรงถึงผู้บริโภคทุกคนง่ายมาก เพราะทุกคนมีเฟซบุ๊ก
มีสมาร์ตโฟน ที่ต้องพูดถึงเฟซบุ๊กเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งใน
ชีวิตจริง ๆ เด็ก ๆ บางคนจะแชร์ที่เที่ยวแนวฮิปสเตอร์บนหน้า
เฟซบุ๊กของเขา เพื่อให้คนที่มาเห็นรู้ว่าไลฟสไตล์เขาเป็นแบบนี้
จะมองว่า เฮ้ย ไอ้นี่มันเก๋ ไอ้นี่มันเท่ มีแต่เรื่องเท่ ๆ มาในชีวิต
ซึ่งเราอยากเป็นอะไร อย่างไร สร้างได้ในเฟซบุ๊ก เด็กยุคนี้หมกมุ่น
อยู่กับโลกตรงนี้เยอะมาก
ถ้าคนยุคนี้เน้นเที่ยวที่สวยงาม โชว์ได้ เขายัง
สนใจแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอยู่ไหม
พูดถึงที่เที่ยววัฒนธรรม คนจะมองถึงวัดก่อน (หัวเราะ)
มองว่าคนเที่ยววัดเป็นคนแก่ หรือเรื่องวิถีชาวบ้านเชย ๆ ต้องไป
ชุมชน ศิลปหัตถกรรม มีการประดิดประดอย ซึ่งคนยุคใหม่
อาจไม่ค่อยสนใจ รู้สึกว่าน่าเบื่อ อันนี้ต้องยอมรับ แต่ถ้าเป็นคน
รุ่นเรายังสนใจ เราเป็นคริสต์แต่ชอบไปวัด มีอัลบั้มรูปวัดเป็น
๑๐๐ วัด แต่เราไม่ได้ไปไหว้พระ เราไปถ่ายรูป วัดตอนใกล้ค�่า
สวยมากนะ ฟ้าสีน�้าเงินแล้วเปิดไฟ คนไม่เคยอยู่วัดตอนเย็น
เพราะเป็นช่วงทานข้าว อันนี้คือสิ่งที่เราท�าได้ ดึงคนเข้าวัด
โดยใช้ภาพถ่าย
108