Page 113 - Culture3-2016
P. 113






















































๓




๑-๓การปรบั สตู รพลกิ แพลงและผสมผสานตลอดจนปรบั รปู ลกั ษณข์ อง 
อาหารไทยใหด้ ทู นั สมยั เกดิ เปน็ อาหารไทยฟวิ ชนั ชวนลมิ้ ลอง

๒






เหมือนกันเราก็พยายามต่อสู้กับมายาคติแบบน้ีเพราะบางที “ถ้าคุณมแีตอ่าหารทเี่ป็นAuthenticคนอาจจะกนิ 


มนัก็มากเกนิไป
เป็นความรู้สักพักแต่มันไม่ยั่งยืนแล้วพออาหารไม่ถูก 

“ลองนึกดูว่าตอนท่ีพริกเม็ดแรกมาถึงอยุธยา คนคง ปรับสูตร พลิกแพลง คุณก็จะใช้แต่เทคนิคเก่าๆ เดิมๆ 


แตกตนื่ กนั มาก แลว้ ถา้ มพี อ่ ครวั แมค่ รวั ในวงั สกั คนบอกวา่ นไี่ มใ่ ช่ มนั ควรจะมพี ฒั นาการทกั ษะการใชเ้ ครอื่ งมอื เปลย่ี นวธิ กี าร 

ของไทยอย่าเอามาทาอาหารเด็ดขาดจะเกิดอะไรข้ึนจริงๆ ใชไ้ฟอาหารไทยถึงจะไปข้างหน้าถา้แมค่รัวสนใจท่จีะเอา 

เราขวางอะไรแบบนไ้ี มไ่ ดอ้ ยแู่ ลว้ โลกนไ้ี มม่ ใี ครขวางการปรบั ตวั ของใหม่ๆ ท่ีได้มาลองคิดค้นปรุงอาหารที่อร่อยขึ้นตลอด 


เรียนรู้ได้ แต่เราคิดว่าตอนนี้มีคนพยายามทาแบบนั้นอยู่ เช่น เวลา เราไม่ต้องคิดถึงอาหารฟิวชันเลยก็ได้ เพราะเราเป็น 

มคีนทพ่ีดูวา่กระเทยีมจนีไมด่ีมแีปง้เยอะอยา่เอามาทาอาหารนะ อยู่แล้วโดยจิตวิญญาณเราทาฟิวชันอยู่แล้วทุกวันแต่ถ้า 

ถ้ายังเป็นแบบนี้เดี๋ยวก็หายนะ ไม่มีการพัฒนาต่อยอดออกไป เกิดอยู่ๆ คุณลุกขึ้นมาเห่ออาหารฟิวชัน แสดงว่ากรอบ 


ทาไมคุณไม่ลองเอามาทาอะไรทแี่ปลกใหม่ข้นึมาล่ะ
ความคิดคณุแขง็ตวั คุณเป็นอนรุกัษน์ิยมต่างหาก”


111
กรกฎาคม-กนั ยายน ๒๕๕๙ 



   111   112   113   114   115