Page 109 - Culture3-2016
P. 109
วถิ ชี วี ติ เรง่ รบี ของคนปจั จบุ นั ทา ใหต้ อ้ งกนิ อาหารงา่ ยๆ เชน่ อาหารทอด
และยา่ งกบั นา้ พรกิ ซงึ่ กลบั ไปเหมอื นกบั วถิ คี นสมยั กอ่ นทกี่ นิ อาหารงา่ ยๆ
จา พวกเนอื้ ปง้ิ ปลายา่ ง และนา้ พรกิ เพอื่ จะไดร้ บี เขา้ สวนทา ไรท่ า นา
เน้ือสัตว์ติดอยู่บ้าง แต่พอเป็นอาหารญ่ีปุ่นคุณใส่เคร่ืองเทศ มีกระทะเหล็กท่ีเรือสาเภาเอาเข้ามาขายในสมัยอยุธยาเช่นกัน
สมุนไพรเยอะไม่ได้ เพราะเขาต้องปล่อยให้มีกลนิ่ ของเน้ือสัตว์
ก่อนหน้านี้มีแต่กระทะดินเผาซ่ึงมีหลักฐานจากการขุดพบใน
แหล่งโบราณคดี ซึ่งกระทะพวกนี้ผัดไฟแดงไม่ได้เพราะมันไม่
“ถ้าจะนิยามอาหารไทยอย่างกว้างที่สุดก็คงประมาณน้ี
คือไม่ชอบกล่ินเน้ือสัตว์ที่ออกมาเต็มๆต้องพยายามกลบแต่ก็ ร้อนเพราะฉะนนั้อปุกรณ์จะควบคุมอาหารของคณุโดยปริยาย
ไม่มากสมนุไพรสดกเ็ช่นพวกพริกหอมกระเทยีมข่าตะไคร้ ต่อมาคือวัตถุดิบมีอะไรบ้างผักอะไรท่ีมีอยู่พริกก็เพิ่งเข้ามา
ใบและผวิ มะกรดู ซง่ึ หากเปน็ พวกฮนิ ดหู รอื มสุ ลมิ จะชอบใชแ้ บบ สมัยอยุธยาตอนกลางๆ วัตถุดิบเผ็ดท่ีสุดเท่าที่คนแถวน้ีมีก็ไล่
แห้งแล้วเอามาบดมากกว่า”
ไปเลยพริกไทยดปีลีมะแขว่นเพราะฉะน้นัต้องเป็นอาหารท่ี
ทาง่ายมาก มันไม่สามารถปรุงให้ละเอียด หรือไม่สามารถจะ
แปรรปู ใหซ้ บั ซอ้ นเหมอื นอาหารแขกฮนิ ดู เพราะถงึ แมเ้ ราเคยเจอ
หนิ บดในแหลง่ โบราณคดสี มยั ทวารวดี กเ็ ชอื่ วา่ มนั ใชบ้ ดยาหรอื
ความเรยีบงา่ยของอาหารไทยดง้ัเดมิ
เครอื่งหอมมากกว่าใช้บดอาหาร
“ดงั นนั้ อาหารทเี่ ปน็ พนื้ เพดงั้ เดมิ ของพนื้ ทแ่ี ถบนี้ มนั ตอ้ ง
“ถ้าพูดถึงอาหารไทยจริงๆเราจะพยายามมองกลับไป เป็นอะไรทงี่่ายมากๆอย่างเอาพรกิไทยมาบดๆผสมกับอะไรที่
ในแง่โบราณคดีลองคดิดวู่าเมือ่๒,๐๐๐ปีทแ่ีล้วในพ้ืนท่ีแถบนี้ หามาไดอ้าจเปน็หอมแดงกก็นิเปน็นา้พรกิซง่ึปจัจบุนัยงัเหน็รอ่งรอย
ซึ่งเป็นประเทศไทยในปัจจุบัน เรามีอะไรบ้างที่เป็นอุปกรณ์ ในชุมชนด้ังเดิมหลายแห่งของเวียดนาม เขากินพวกเนื้อปิ้ง
ทาอาหารเราเพ่ิงมีครกชัดเจนในสมัยอยุธยาเป็นครกดินเผา ปลาปิ้งกับเคร่อืงจิม้มีมะแขว่นเกลือมองอาหารพวกนแี้ล้วจะ
เพราะฉะนั้นเรายังไม่สามารถจะตาเครื่องแกงได้แล้วเราเพิ่ง
เหน็ภาพอาหารในอดตีของเราว่ามลีักษณะอย่างไร
107
กรกฎาคม-กนั ยายน ๒๕๕๙