Page 101 - Culture1-2016
P. 101
จากละครหนุ่ สศู่ ลิ ปะเพอื่ สงั คม
ไมใ่ ชเ่ รอื่ งเกา่ แก่ เพราะตา นานตา นา้ กนิ กค็ อื เรอื่ งการดแู ลรกั ษา
คณะละครหุ่นสายเสมาไม่เพียงเปิดการแสดงใน นา้ ใชไ่ หม การดแู ลชมุ ชนใชไ่ หม การดแู ลไมท่ ง้ิ ขยะลงไปในนา้
โรงละครของตนเองยา่ นถนนวภิ าวดรี งั สติ หรอื สญั จรไปเลน่ ใน ใชไ่ หม สงิ่ เหลา่ นส้ี ามารถเลา่ ใหมใ่ หส้ อดคลอ้ งกบั ปจั จบุ นั ”
เทศกาลละครตา่ งๆ เทา่ นนั้ หากยงั มกี จิ กรรมทไี่ ปรว่ มกบั ชมุ ชน ดังนั้นการแสดงละครหุ่นจึงนับเป็นสื่อสร้างสรรค์ที่
ท้องถ่ิน โดยเฉพาะโครงการไปอบรมเชิงปฏิบัติการเพ่ือสร้าง เด็กๆ แต่ละท้องถิ่นสามารถใช้เพ่ือบอกเล่าเรื่องราว หรือใช้
คณะละครหุ่นสายเยาวชนให้กบัโรงเรยีนตามจังหวดัต่างๆ
รณรงค์ให้ความรู้เรื่องต่างๆเช่นการอนุรักษ์ธรรมชาติการ
เพ่ือให้การดาเนินโครงการดังกล่าวเกิดผลดีอย่าง ดูแลรักษาสุขภาพ หรืออันตรายของยาเสพติด ได้อย่างมี
ต่อเน่อืงคณะละครหุ่นสายเสมาจึงยกระดับข้ึนเป็น“มูลนิธิ สีสนัน่าสนใจ
ละครห่นุ สายเสมา ศลิ ปะเพอื่ สังคม” ในปี ๒๕๔๗
โดยจุดเร่ิมต้นคือการไปอบรมให้กับนักเรียนของ
กา้ วไปขา้ งหนา้ กบั เครอื ขา่ ยหนุ่ เยาวชน
ภายหลังการเกิดขึ้นของคณะหุ่นเยาวชนในแต่ละ โรงเรียนวัดเขายี่สาร อาเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
จงั หวดั ภารกจิ ตอ่ มาของมลู นธิ หิ นุ่ สายเสมา ศลิ ปะเพอื่ สงั คม กระทั่งเกิดเป็น “หุ่นสายคณะช่อชะคราม” คณะละครหุ่น
คอืความพยายามก่อต้งัเครือข่ายหุ่นเยาวชนไทย
เยาวชนตน้แบบทป่ีระสบความสาเรจ็นา่จบัตามทีงั้งานแสดง
และเดก็รุ่นน้องทเี่ข้าไปสืบทอดแทนรุ่นพี่อย่างต่อเน่ือง โดยการริเริ่มจัดงานเทศกาลหุ่นเยาวชนนานาชาติ
ต่อมามูลนิธิฯ จึงออกไปเปิดอบรมให้กับโรงเรียนของ ๒๕๕๙ (Harmony International Youth Puppet Festival 2016)
จังหวัดอ่นื ๆ เช่น บุรีรมั ย์ นครราชสีมา ภเู ก็ต ชยั นาท ฯลฯ
ครงั้ ที่ ๗ ทอ่ี า เภออมั พวา จงั หวดั สมทุ รสงคราม เพอื่ ใหค้ ณะหนุ่
“เรามักเลือกโรงเรียนที่มีขนาดเล็ก เพราะว่าเด็กจะมี เยาวชนทกุ ประเภท ไมเ่ ฉพาะหนุ่ สาย ไดม้ าแลกเปลยี่ นเรยี นรู้
ความใกล้ชิดกับครู โรงเรียน และชุมชน” นิมิตรเล่าถึง ด้วยกัน ทั้งยังมีคณะหุ่นเยาวชนจากประเทศอาเซียน เช่น
กระบวนการอบรม
เวียดนาม เมียนมา มาร่วมเวทีแสดงด้วย
“เรมิ่ ตน้ ดว้ ยการใหค้ วามรเู้ รอื่ งหนุ่ กบั เดก็ ๆ แลว้ สอนให้ “เราจดั เทศกาลเพอื่ ใหค้ ณะหนุ่ สายเยาวชนไดม้ าเจอกนั
รจู้ กั การสรา้ งหนุ่ ดว้ ยมอื ตนเอง เพอ่ื ทเ่ี ขาจะรสู้ กึ ผกู พนั กบั สงิ่ ที่ ในแตล่ ะปี ใหเ้ ขาไดแ้ สดงผลงาน โดยเราจะไมไ่ ปบอกวา่ หนจู า๋
เขาจับหุ่นทเี่ขาเล่นต่อมาคอืเรื่องทเี่ขาจะเล่าก็คือเรื่องราว ทารามเกยีรตซ์ินีนน้ีะอยากทาอะไรกท็ามาเรากจ็ะไดเ้หน็เขา
ในชุมชนของเขาเอง เรามีการทา แผนท่ีชุมชน เพ่ือให้เด็กได้ ทา ละครเรอื่ งยาเสพตดิ บา้ ง เรอื่ งขายควายซอื้ โทรศพั ทม์ อื ถอื
ไปสารวจ หรือดึงครูภูมิปัญญาท้องถิ่นมาถ่ายทอดความรู้ ให้ลูกบ้าง ซ่ึงเราถือว่าเป็นวรรณกรรมปัจจุบัน มันคือบันทึก
บางครงั้ เดก็ ถงึ ขน้ั อา้ ปากตกใจ ตนื่ เตน้ วา่ บา้ นฉนั มเี รอื่ งแบบนี้ ของสงั คม”
ด้วยหรือ ก็เกิดความช่ืนชมอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อพวกเขา
เปิดการแสดง คนในชุมชนก็จะช่ืนชมท่ีเด็กๆ ได้สืบสานสิ่ง “ครูหนืด” ของเด็กๆ บอกว่าเป้าหมายของ มูลนิธิ
ที่คนเฒ่าคนแก่อยากบอกเล่า เป็นการเช่ือมโยงเด็กเข้ากับ หนุ่ สายเสมา ศลิ ปะเพอื่ สงั คม คอื มงุ่ สบื สรา้ ง สรา้ งสรรค์ และ
ทอ้งถน่ิของตวัเอง”
ส่งเสริมละครหุ่นสายของไทยซึ่งรวมถึงการสร้างความยงั่ยนื
“อย่างจังหวดับุรรีมัย์จะมวีรรณกรรมท้องถิ่น‘ตานาน ให้กับเครือข่ายหุ่นเยาวชนของไทยด้วยโดยมีจุดประสงค์
ตา นา้ กนิ ’ เดก็ ๆ ครบู าอาจารยห์ ลงลมื เรอ่ื งนไี้ ปหมดแลว้ เขาก็ หลักคือการพัฒนาเด็กด้วยหุ่น เพื่อให้พวกเขาเติบโตอย่างมี
ไปสืบค้นมาใหม่แต่ก็เกิดคาถามว่าแล้วใครจะดูเพราะที่น่ี คุณภาพและสร้างสังคมท่ดีีน่ันเอง
กลายเปน็ เมอื งฟตุ บอลไปแลว้ นน่ั คอื จดุ ทเี่ ราตอ้ งคอ่ ยๆ ทา ให้
เขาเห็นว่าจะเล่าเรื่องอย่างไรให้ซาบซ้ึงกินใจและร่วมสมัย
99
มกราคม-มนี าคม ๒๕๕๙