Page 33 - CultureMag2015-3
P. 33
ดังที่พระวินัยห้ามภิกษุใช้ของงาม) เคาะแล้วมีเสียงดังกังวาน บาตรกน็ า่ มากกวา่ ก�ำลงั ผลติ บา้ นบาตรอาจไมใ่ ชช่ มุ ชนเดยี ว
คล้ายเสียงระฆงั ทีผ่ ลิตบาตร ทัง้ ช่ือบา้ นบาตรก็ยงั มปี รากฏอยู่ในถิน่ อื่น
ครั้นเริ่มมีโรงงานผลิตบาตรสเตนเลสที่เรียกกันว่า รา้ นสงั ฆภณั ฑย์ า่ นเสาชงิ ชา้ มกั จำ� หนา่ ยบาตรสเตนเลส
“บาตรปัม๊ ” เขา้ มาแทนที่ การผลิตบาตรท่บี ้านบาตรกค็ อ่ ยๆ ทั้งชุด คือ บาตร ฝาบาตร ถลกบาตร และเชิงบาตร ส่วนท่ี
สญู หายลงจนแทบจะหมดสนิ้ กอ่ นจะพลกิ ฟน้ื กลบั มาอกี ครงั้ ชุมชนบ้านบาตรน้ันแม้จะผลิตเฉพาะบาตร ก็ยังมีผู้สนใจมา
ในฐานะงานฝีมือเมื่อราว ๒๐ ปีก่อน และกลายเป็นของท่ี เยือนไม่เว้นวัน นอกจากผู้ส่ังท�ำบาตรแบบด้ังเดิมและนัก
ระลึกส�ำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตลอดจนเป็นงานทรง ท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นิยมบาตรขนาดเล็ก (ขอบ ๓ น้ิวฟุต
คณุ คา่ ทผ่ี ศู้ รทั ธาวา่ จา้ งเพอื่ นำ� ถวายพระผใู้ หญ ่ ราคาของบาตร ข้ึนไป) ซ่ึงเป็นลูกค้าหลักแล้ว นักเรียนนักศึกษา นักวิชาการ
ท�ำมอื จงึ สงู กว่า “บาตรป๊มั ” หลายเท่า ส่ือมวลชน หรือผู้มีหน้าท่ีการงานเกี่ยวข้องก็มาเท่ียวชมหรือ
ขอความรอู้ ยบู่ อ่ ยครงั้ ซงึ่ กไ็ ดร้ บั การตอ้ นรบั ดว้ ยอธั ยาศยั ไมตรี
บา้ น บาตรวนั นี้ เสมอกัน เพราะหัวใจของชาวบ้านบาตรไม่ได้มุ่งผลิตสินค้า
ส�ำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติประกาศเม่ือปี ๒๕๕๗ เพ่อื ขาย ส่ิงต่างๆ จึงปรับเปล่ียนไปตามยคุ สมัย
วา่ วดั ในประเทศไทยมใี กล ้ ๔ หมน่ื วดั สว่ นพระภกิ ษ ุ-สามเณร
มรี ว่ ม ๓.๕ แสนรปู หากนบั แคว่ า่ พระสงฆห์ นงึ่ รปู ใชบ้ าตรหนงึ่ ชุมชนบ้านบาตรทุกวันนี้มีอยู่ราว ๑๕๐ หลังคาเรือน
ใบ ก�ำลังการผลิตบาตรของชาวชุมชนบ้านบาตรจึงเป็นไปไม่ หากเดินเข้าไปในชุมชนบ้านบาตร จะพบเห็นการท�ำบาตร
ได้ที่จะเพยี งพอตอ่ การใชง้ าน ชวนใหค้ ิดยอ้ นไปว่า แต่เดิมมา ในข้ันตอนต่างๆ อยู่ท่ัวชุมชน ตั้งแต่ตีขอบ ขึ้นรูป เช่ือม
แมจ้ ำ� นวนวดั และพระสงฆจ์ ะนอ้ ยกวา่ น ้ี แตส่ ดั สว่ นของการใช้ (แลน่ บาตร) ขนึ้ ลาย ตเี รยี งเมด็ ฯลฯ ทกุ ขน้ั ตอนเกดิ จากชา่ ง
ทผี่ า่ นอายงุ านมาหลายสบิ ป ี สว่ นใหญจ่ ะรบั จา้ งท�ำเฉพาะดา้ น
นา้ สมศกั ด ์ิ บัพชาติ (ชา่ งหมู) ปา้ กฤษณา แสงไชย วยั ๖๔ ป ี
มรี างวลั OTOP ประจ�ำเขต เป็นเครอื่ งประกันคุณภาพ กบั บาตรเหล็กตมี อื บ่ม คณุ ภาพสงู
รบั ประกันว่าไมเ่ กิดสนิม