๗
เป็
น “ธรรมราชา” และพระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
ว
ของเราในรั
ชกาลปั
จจุ
บั
นนั้
นก็
ทรงเป็
น
“ธรรมราชา”
อย่
างแท้
จริ
งดั
งปรากฏในสั
ญญาประชาคมที่
พระราชทาน
อารั
กขาแก่
ประชาชน คื
อ พระปฐมบรมราชโองการ
ในพระราชพิ
ธี
บรมราชาภิ
เษกว่
า เราจะครองแผ่
นดิ
น
โดยธรรมเพื่
อประโยชน์
สุ
ขแห่
งมหาชนชาวสยาม กว่
า ๖๐ ปี
มาแล้
วที่
ปรากฏยื
นยั
นว่
า พระองค์
ได้
ทรงครองแผ่
นดิ
นโดย
ทศพิ
ธราชธรรม จั
กรวรรดิ
วั
ตร และราชจรรยานุ
วั
ตร อย่
าง
บริ
สุ
ทธิ์
บริ
บู
รณ์
พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
วทรงเป็
นพุ
ทธมามกะ
ที่
เคร่
งครั
ด เมื่
อมี
โอกาสอำ
�นวยจึ
งเสด็
จออกทรงผนวชเป็
น
เวลา ๑๔ วั
นเมื่
อ พ.ศ.๒๔๙๙ ตามพระราชพิ
ธี
และเป็
นการ
สนองพระเดชพระคุ
ณพระราชบู
รพการี
โดยทรงศึ
กษาและ
ปฏิ
บั
ติ
ตามพระธรรมวิ
นั
ยอย่
างเคร่
งครั
ดอั
นมี
ผลให้
พระราช
ดำ
�รั
ส พระบรมราโชวาทในโอกาสต่
างๆ ประกอบไปด้
วย
หลั
กธรรมของพระพุ
ทธศาสนาอยู่
เสมอ เพราะอาจเป็
นที่
รั
งเกี
ยจของประชาชนบางส่
วนที่
นั
บถื
อศาสนาอื่
นดั
งเช่
น
คุ
ณธรรม ๔ ประการ คื
อการรั
กษาความสั
จ การรู้
จั
กข่
มใจ
ตนเอง การอดทนอดกลั้
นที่
จะไม่
ประพฤติ
ล่
วงความสั
จสุ
จริ
ต
และการรู้
จั
กละวางความชั่
วและรู้
จั
กเสี
ยสละส่
วนน้
อยเพื่
อ
ประโยชน์
ส่
วนใหญ่
ของบ้
านเมื
อง คุ
ณธรรม ๔ ประการ ดั
งกล่
าว
ก็
คื
อฆราวาสธรรม ๔ ในพระพุ
ทธศาสนานั่
นเอง ได้
แก่
สั
จจะ
ทมะ ขั
นติ
และจาคะ อั
นเป็
น สั
จธรรมที่
ประชาชนชาวไทย
ทุ
กหมู่
เหล่
าควรน้
อมนำ
�พระบรมราโชวาทนี้
มาประพฤติ
ซึ่
งจะเป็
นผลดี
แก่
ประเทศชาติ
อย่
างยิ่
ง
พระราชกรณี
ยกิ
จเกี่
ยวแก่
พระพุ
ทธศาสนาอี
กประการ
คื
อ พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
วได้
ทรงสร้
างพระพุ
ทธรู
ป
เพื่
อเป็
นศู
นย์
รวมแห่
งความรั
กและศรั
ทธา เริ่
มจากทรงสร้
าง
พระผงพิ
มพ์
จิ
ตรดาขึ้
น เมื่
อ พ.ศ.๒๕๐๘ ประกอบด้
วย เส้
น
พระเจ้
าคื
อเส้
นผมของพระองค์
ที่
เจ้
าพนั
กงานรวบรวมไว้
หลั
งจากทรงพระเครื่
องใหญ่
คื
อตั
ดผมทุ
กครั้
ง รวมทั้
งวั
ตถุ
จากปู
ชนี
ยสถานหรื
อพระพุ
ทธรู
ปศั
กดิ์
สิ
ทธิ
ที่
ประชาชนเคารพ
นั
บถื
อจากจั
งหวั
ดทั่
วประเทศด้
วยเหตุ
นี้
พระผงพิ
มพ์
จิ
ตรดา
จึ
งเป็
นเสมื
อนศู
นย์
รวมพลั
งแห่
งความรั
ก และความศรั
ทธา
จากดวงจิ
ตอั
นบริ
สุ
ทธิ์
ของประชาชนทั่
วประเทศ โดยทรงผสม
ผลมวลสารและกดพิ
มพ์
สร้
างด้
วยพระองค์
หลั
งจากนั้
นพระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
วได้
ทรง
สร้
างพระพุ
ทธนวราชบพิ
ตร เป็
นพระพุ
ทธรู
ปปางมารวิ
ชั
ย
โดยทรงเททองหล่
อพระพุ
ทธรู
ปเมื่
อ พ.ศ.๒๕๐๙ ที่
ฐาน
ขององค์
พระได้
ทรงบรรจุ
พระผงพิ
มพ์
จิ
ตรดาไว้
๑ องค์
และได้
พระราชทานพระพุ
ทธรู
ปนี้
แก่
ผู้
ว่
าราชการจั
งหวั
ด
ต่
า ง ๆ ใ นคร า ว เ สด็
จ
พระราชดำ
�เนิ
นไปทรง
เยี่
ยมเยี
ยนราษฎรจั
งหวั
ด
นั้
น พระราชกรณี
ยกิ
จ
สำ
�คั
ญที่
ควรนำ
�เสนออี
ก
เรื่
องคื
อ พระบาทสมเด็
จ
พระเจ้
าอยู่
หั
วได้
ทรงสร้
าง
วั
ดพระราม ๙ กาญจนา
ภิ
เษกขึ้
นที่
ถนนพระราม ๙
เขตห้
วยขว้
าง กรุ
งเทพมหานคร เนื่
องจากมี
พระราชดำ
�ริ
ให้
แก้
ไขปั
ญหาน้
ำ
�เน่
าเสี
ยด้
วยวิ
ธี
การเติ
มอากาศที
่
บึ
งพระราม ๙
และมี
การพั
ฒนาชุ
มชนโดยรอบ ต่
อมาจึ
งมี
พระราชดำ
�ริ
ว่
าควรมี
วั
ดให้
ชาวชุ
มชนมี
ศู
นย์
รวมจิ
ตใจและเป็
นพื้
นที่
ทำ
�
กิ
จกรรมร่
วมกั
นตามแนว “บวร” คื
อ บ้
าน-วั
ด-ราชการ ได้
อุ
ปการะช่
วยเหลื
อซึ่
งกั
นและกั
น มู
ลนิ
ธิ
ชั
ยพั
ฒนา จึ
งได้
เริ่
มทำ
�งานสนองพระราชประสงค์
จนวั
ดได้
รั
บพระราชทาน
วิ
สุ
งคามสี
มาเมื่
อ พ.ศ.๒๕๔๑ วั
ดพระราม ๙ กาญจนาพิ
เษก
และชุ
มชน โดยรอบ จึ
งเป็
นต้
นแบบหนึ่
งของการดำ
�เนิ
นชี
วิ
ต
ตามแนวปรั
ญชาเศรษฐกิ
จพอเพี
ยงคื
อ พระอุ
โบสถซึ่
งสร้
าง
ตามพระราชดำ
�ริ
ให้
มี
ขนาดเล็
กเรี
ยบง่
ายและใช้
วั
สดุ
ก่
อสร้
าง
เหมาะสมกั
บยุ
คสมั
ย
พระราชกรณี
ยกิ
จสำ
�คั
ญของผู้
ผดุ
งรั
กษาวั
ฒนธรรม
ไทยด้
านหนึ่
งคื
อ การอนุ
รั
กษ์
ฟื้
นฟู
พระราชพิ
ธี
หลั
งจากการ
เปลี่
ยนแปลงการปกครองเมื่
อ พ.ศ.๒๔๗๕ พระราชพิ
ธี
จำ
�นวนมากได้
ถู
กยกเลิ
กเนื่
องจากเหตุ
ผลด้
านการเมื
องและ
เศรษฐกิ
จ ต่
อมาเมื่
อพระบาทสมเด็
จพระปรมิ
นทรมหาภู
มิ
พล
อดุ
ลยเดชได้
เสด็
จเถลิ
งถวั
ลยราชสมบั
ติ
และทรงประกอบ
พระราชพิ
ธี
บรมราชาภิ
เษก เมื่
อ พ.ศ.๒๔๙๓ แล้
ว ได้
มี
พระราชดำ
�ริ
ให้
ฟื้
นฟู
พระราชพิ
ธี
ต่
างๆ ขึ้
นตามแบบแผนที่
เคยปฏิ
บั
ติ
มา เนื่
องจากทรงตระหนั
กว่
า พระราชพิ
ธี
เหล่
านั้
น
เป็
นเอกลั
กษณ์
ทางวั
ฒนธรรมอั
นดี
งามของชาติ
และหลาย
พระราชพิ
ธี
ก็
มี
ประโยชน์
ต่
อบ้
านเมื
อง ช่
วยเสริ
มสร้
างขวั
ญ
กำ
�ลั
งใจแก่
ประชาชน ทั้
งนี้
ในการฟื้
นฟู
พระราชพิ
ธี
โปรดเกล้
าฯ
ให้
ตั
ดขั้
นตอนอั
นฟุ่
มเฟื
อยออก คงไว้
แต่
ส่
วนที่
จำ
�เป็
น ดั
งจะ
ยกตั
วอย่
างบางพระราชพิ
ธี
ที่
โปรดเกล้
าฯ ให้
ฟื้
นฟู
ขึ้
นมา เช่
น
พระราชพิ
ธี
พื
ชมงคลจรดพระนั
งคั
ลแรกนาขวั
ญ
อั
นเป็
นพระราชพิ
ธี
เพื่
อความอุ
ดมสมบู
รณ์
ของพื
ชพั
นธุ์
ธั
ญญาหาร และความเป็
นสิ
ริ
มงคลของบ้
านเมื
อง เดิ
ม
พระราชพิ
ธี
นี้
เป็
นความเชื่
อในศาสนาพราหมณ์
ต่
อมาพระบาท
สมเด็
จพระจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
วได้
ทรงเพิ่
มพิ
ธี
สงฆ์
ขึ้
นเป็
น
พระราชพิ
ธี
พื
ชมงคล เพื่
อความเป็
นสิ
ริ
มงคลในการทำ
�กสิ
กรรม