Page 8 - may53

Basic HTML Version

ศาสตราจารย์
พิ
เศษทองต่
อ กล้
วยไม้
ณ อยุ
ธยา...เรื่
อง
เสน่
ห์
ของประเทศไทยที่
สร้
างความประทั
บใจให้
แก่
นั
กท่
องเที่
ยวชาวต่
างประเทศจำ
�นวนนั
บล้
านมาเยื
อนประเทศ
นอกจากสภาพภู
มิ
ประเทศอั
นงดงาม ไม่
ว่
าป่
าเขาท้
องทะเล
กว้
างตลอดจนชายหาดยาวเป็
นกิ
โลเมตร และที่
พั
กอั
นงดงาม
ทั
นสมั
ยแล้
ว นอกเหนื
อไปจากสิ่
งที่
กล่
าวมาและมี
ความสำ
�คั
ยิ่
งคื
อวั
ฒนธรรมอั
นดี
งาม ที่
บรรพชนไทยได้
สั่
งสมต่
อเนื่
องกั
มานั
บพั
นปี
จนนั
กท่
องเที่
ยวจำ
�นวนมากไม่
อาจลื
มเลื
อน
คำ
�ว่
าวั
ฒนธรรมนั้
นมี
ความหมายกว้
างขวาง นั
กปราชญ์
ผู้
บั
ญญั
ติ
คำ
�นี้
ขึ้
นมาประสงค์
จะให้
ตรงกั
บคำ
�ว่
า culture
คื
อการเพาะปลู
กให้
งอกงาม เป็
นการแสดงถึ
งความ
เจริ
ญงอกงามที่
มี
ผลให้
ประโยชน์
แก่
มนุ
ษย์
ทั้
งทางกายใน
การใช้
บริ
โภคหรื
อทำ
�สิ่
งของใดๆ เพื่
อใช้
สอยหรื
อทางใจเกิ
ความชื่
นชมในความประพฤติ
ของมนุ
ษย์
ด้
วยกั
น ตลอดจน
สิ่
งของที่
มนุ
ษย์
สร้
างขึ้
น จึ
งใช้
คำ
�ว่
า วั
ฒนอั
นหมายถึ
งความ
เจริ
ญงอกงามดั
งกล่
าว
ดั
งนั้
น วั
ฒนธรรมจึ
งมี
หลายด้
านหลายสาขา เช่
วั
ฒนธรรมทางศาสนา จะเจริ
ญรุ่
งเรื
องได้
ก็
ต้
องมี
การทำ
�นุ
บำ
�รุ
ง ส่
งเสริ
มและให้
ความอุ
ปถั
มภ์
คุ้
มครองกิ
จการด้
าน
ศาสนาส่
งเสริ
มเผยแพร่
หลั
กธรรม พั
ฒนาความรู้
คู่
กั
คุ
ณธรรม ให้
คนไทยนำ
�หลั
กธรรมทางศาสนามาพั
ฒนา
คุ
ณภาพชี
วิ
ตให้
เป็
นคนดี
มี
คุ
ณภาพ ทั้
งนี้
ก็
จะต้
องดู
แลรั
กษา
ศาสนสถานและศาสนวั
ตถุ
ด้
วย
วั
ฒนธรรมด้
านจิ
ตใจยั
งมี
อี
กหลายประการ เช่
น งาน
ด้
านพิ
พิ
ธภั
ณฑ์
โบราณคดี
และโบราณสถาน วรรณกรรม
ประวั
ติ
ศาสตร์
ขนบธรรมเนี
ยม จารี
ตประเพณี
หอสมุ
หอจดหมายเหตุ
นาฎศิ
ลป์
ดุ
ริ
ยางคศิ
ลป์
คี
ตศิ
ลป์
สถาปั
ตยกรรม
และศิ
ลปกรรม งานเหล่
านี้
จำ
�เป็
นต้
องคุ้
มครองป้
องกั
อนุ
รั
กษ์
บำ
�รุ
งรั
กษา ศึ
กษาค้
นคว้
า วิ
จั
ย พั
ฒนา และ
สื
บทอดศิ
ลปะและทรั
พย์
สิ
นมรดกของบรรพชนอั
นเป็
นศิ
ลป
วั
ฒนธรรมของชาติ
เพื่
อธำ
�รงคุ
ณค่
าและเอกลั
กษณ์
ของชาติ
ที่
ทำ
�ให้
สั
งคมไทยมี
การพั
ฒนาที่
ยั่
งยื
นและเกิ
ดความมั่
นคง
ของชาติ
นอกจากชุ
มชนวั
ดวาอาราม มี
หน้
าที่
บำ
�รุ
งรั
กษา
วั
ฒนธรรมไทยให้
สื
บทอดต่
อกั
นมาแล้
ว ผู้
มี
บทบาทสำ
�คั
ยิ่
งในการริ
เริ่
มอุ
ดหนุ
นและธำ
�รงรั
กษาวั
ฒนธรรมคื
อ สถาบั
พระมหากษั
ตริ
ย์
ที่
มี
การศึ
กษา มี
ทรั
พยากร และมี
อำ
�นาจ
หน้
าที่
ราชสำ
�นั
กจึ
งเป็
นต้
นแบบของงานศิ
ลปวั
ฒนธรรม
และเผยแพร่
ออกไปสู่
สั
งคมภายนอก ที่
ชื่
นชมและพยายาม
ประพฤติ
ปฏิ
บั
ติ
ตามโดยเห็
นว่
าถู
กต้
องดี
งาม และที่
นั
บว่
เป็
นที่
โชคดี
ยิ่
งของชาติ
ไทย ที่
ปั
จจุ
บั
นแม้
ประเทศไทยจะมี
การปกครองแบบประชาธิ
ปไตยที่
มี
พระมหากษั
ตริ
ย์
ทรงเป็
พระประมุ
ขของชาติ
โดยมี
รั
ฐบาลเป็
นผู้
รั
บผิ
ดชอบในการดู
แล
รั
กษาและส่
งเสริ
มศิ
ลปวั
ฒนธรรมของชาติ
แต่
พระประมุ
ของชาติ
ปั
จจุ
บั
นคื
อพระบาทสมเด็
จพระปรมิ
นทรมหาภู
มิ
พล
อดุ
ลยเดชฯ สยามิ
นทราธิ
ราช บรมนาถบพิ
ตร ผู้
ทรงพระคุ
อั
นประเสริ
ฐ มี
พระมหากรุ
ณาอย่
างยิ่
งในการเป็
นพระบรม
ราชู
ปถั
มภก งานศิ
ลปวั
ฒนธรรมของชาติ
แทบทุ
กด้
าน
ทุ
กสาขา จนไม่
อาจบรรยายในบทความสั้
นๆ นี้
ได้
ครบถ้
วน
จึ
งจำ
�เป็
นที่
จะต้
องขออั
ญเชิ
ญพระราชกรณี
ยกิ
จในด้
านนี้
เพี
ยง
บางประการ มาให้
พี่
น้
องประชาชนชาวไทยได้
ซาบซึ้
งใน
พระบารมี
อั
นประกอบไปด้
วยพระมหากรุ
ณาอย่
างหาที่
สุ
ไม่
ได้
พระราชกรณี
ยกิ
จด้
านศิ
ลปวั
ฒนธรรมประการ
แรกที่
อั
ญเชิ
ญมาเสนอ คื
อ พระราชกรณี
ยกิ
จด้
าน
ศาสนา ซึ่
งมี
ผลในด้
านพั
ฒนาจิ
ตใจของประชาชน
เพราะมนุ
ษย์
นั้
นเป็
นใหญ่
ใจเป็
นประธาน แผ่
นดิ
นไทย
แต่
โบราณกาลมาแล้
วเราควรเคารพนั
บถื
อผู้
ปกครองที่