๕
๑. การจั
ดประชุ
มสั
มมนา
“ธ ทรงปกเกล้
าฯ จากขุ
นเขา
จรดทะเล”
/ การเสวนาเรื่
อง
“ความทรงจำ
�จากวั
นเสด็
จเยี่
ยม”
โดยผู้
แทนชนเผ่
าพื้
นเมื
องต่
างๆ / การปาฐกถา เรื่
อง
“สิ
ทธิ
ของชน
เผ่
าพื้
นเมื
องตามรั
ฐธรรมนู
ญไทย”
/ การอภิ
ปราย เรื่
อง
“ห้
าคู
ณหก
และร่
าง พรบ. ไทยพลั
ดถิ่
น”
และการปาฐกถา เรื่
อง
วั
นสากลแห่
ง
ความหลากหลายทางวั
ฒนธรรม
โดย นายธี
ระ สลั
กเพชร รั
ฐมนตรี
ว่
าการกระทรวงวั
ฒนธรรม
นอกจากนี้
ยั
งได้
จั
ดให้
มี
การเสวนา เรื่
อง
“ประสบการณ์
จากการพั
ฒนา”
โดย ผู้
แทนชนเผ่
าพื้
นเมื
องจากต่
างประเทศ ได้
แก่
นากา(อิ
นเดี
ย) ทิ
ปุ
ระ (บั
งคลาเทศ) กานกานาเอ (ฟิ
ลิ
ปปิ
นส์
) ซามิ
(ฟิ
นแลนด์
) ไอนุ
(ญี
ปุ่
น) ฮาหนี
(จี
น) / การอภิ
ปราย เรื่
อง
“นโยบาย
กฎหมาย สนธิ
สั
ญญา และสั
ตยาบั
นระหว่
างประเทศกั
บการปกป้
อง
คุ้
มครองสิ
ทธิ
ชนเผ่
าพื้
นเมื
อง/มรดกภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรม”
โดย
ผู้
แทนจากองค์
การระหว่
างประเทศ WIPO / UNESCO / UNDP
๒. การจั
ดนิ
ทรรศการ
“ธ ทรงปกเกล้
าฯ จากขุ
นเขาจรด
ทะเล”
เพื่
อแสดงให้
เห็
นถึ
งพระราชกรณี
ยกิ
จที่
ทรงห่
วงใยพสกนิ
กร
ทุ
กหมู่
เหล่
าโดยการเสด็
จเยี่
ยมชนเผ่
าพื้
นเมื
อง ชายขอบของทุ
กภู
มิ
ภาค
และนิ
ทรรศการชนเผ่
าพื้
นเมื
องในประเทศไทย
๓. การสาธิ
ตวิ
ถี
ชี
วิ
ตชนของชนเผ่
าพื้
นเมื
อง ทั้
งไทยและ
ต่
างประเทศ
๔. การจำ
�หน่
ายอาหาร และสิ
นค้
าวั
ฒนธรรมจากการ
สร้
างสรรค์
ของชนเผ่
าพื้
นเมื
อง
๕. นิ
ทรรศการโครงการอั
นเนื่
องมาจากพระราชดำ
�ริ
๖. การแสดงทางวั
ฒนธรรมของชนเผ่
าพื้
นเมื
อง ทั้
งจาก
ประเทศไทยและต่
างประเทศ
๗.
การประกวดภาพวาด
ภายใต้
หั
วข้
อ
“พระมหากรุ
ณาธิ
คุ
ณ
ค้ำ
�จุ
นมรดกไทย”
โดย มหาวิ
ทยาลั
ยนเรศวร
การประกวดภาพถ่
าย
โดย สมาพั
นธ์
สมาคมการถ่
ายภาพแห่
งประเทศไทย และ
การประกวด
ภาพยนตร์
สั้
น
โดย คณะนิ
เทศศาสตร์
จุ
ฬาลงกรณ์
มหาวิ
ทยาลั
ย
๘. การฉายภาพยนตร์
พระราชกรณี
ยกิ
จเกี่
ยวกั
บการ
เสด็
จเยี่
ยมชนเผ่
าพื้
นเมื
องและกลุ่
มชนชายขอบของทุ
กภู
มิ
ภาคใน
ประเทศไทย และการฉายภาพยนตร์
๓ มิ
ติ
เรื่
อง
๘ ทศวรรษ รั
ชกาล
ที่
๙
ภาพยนตร์
สั้
นที่
ชนะการประกวด และภาพยนตร์
เกี่
ยวกั
บชน
เผ่
าพื้
นเมื
อง
๙. กิ
จกรรมลานวั
ฒนธรรม ได้
แก่
การสาธิ
ตประเพณี
พิ
ธี
กรรม การแสดงชุ
ดแต่
งกายของชนเผ่
าพื้
นเมื
อง การแข่
งขั
น และ
การละเล่
นต่
างๆ
๑๐. การแสดงนิ
ทรรศการขององค์
กรที่
สนั
บสนุ
นกิ
จการ
เกี่
ยวกั
บชนเผ่
าพื้
นเมื
องทั้
งในประเทศและระหว่
างประเทศ เช่
น
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพั
ฒนาสั
งคมและความมั่
นคงของ
มนุ
ษย์
เป็
นต้
น
นอกจากนี้
ยั
งมี
การแสดงพื้
นบ้
านของมิ
ตรประเทศต่
างๆ
ได้
แก่
สาธารณรั
ฐเกาหลี
ตุ
รกี
ศรี
ลั
งกา บั
ลแกเรี
ย และฟิ
ลิ
ปปิ
นส์
นายสมชาย เสี
ยงหลาย
เลขาธิ
การคณะกรรมการวั
ฒนธรรม
แห่
งชาติ
ได้
กล่
าวถึ
งการจั
ดงานครั้
งนี้
ว่
า “นั
บเป็
นครั้
งแรกของ
ประเทศไทย ที่
ได้
มี
การเปิ
ดพื้
นที่
สำ
�หรั
บชนเผ่
าพื้
นเมื
องในประเทศไทย
๒๓ ชนเผ่
า และต่
างประเทศ อี
กจำ
�นวน ๓ ชนเผ่
า จาก ๓ ประเทศ
ให้
ได้
มี
โอกาสมาแสดงตน พบปะแลกเปลี่
ยนเรี
ยนรู้
และร่
วมทำ
�
กิ
จกรรมร่
วมกั
นในสถานที่
อั
นทรงเกี
ยรติ
แห่
งนี้
และสิ่
งที่
ทุ
กคนรู้
สึ
ก
ภาคภู
มิ
ใจเป็
นอย่
างยิ่
งนั่
นก็
คื
อ การได้
มี
โอกาสมาร่
วมเทิ
ดพระเกี
ยรติ
พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
ว ด้
วยการจุ
ดเที
ยนชั
ยถวายพระพร เพื่
อ
แสดงออกถึ
งความจงรั
กภั
กดี
และสำ
�นึ
กในพระมหากรุ
ณาธิ
คุ
ณที่
ได้
ทรงเยี่
ยมเยี
ยนและเอาพระทั
ยใส่
ต่
อพสกนิ
กรของพระองค์
ทุ
กหมู่
เหล่
า
อย่
างเท่
าเที
ยมกั
น นั
บจากขุ
นเขาจรดทะเล นอกจากนี้
ยั
งเป็
นโอกาส
อั
นดี
ที่
พี่
น้
องประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนจะได้
เข้
าร่
วมชมกิ
จกรรม
และได้
รู้
จั
กชนเผ่
าพื้
นเมื
องในประเทศไทยทั้
ง ๒๓ ชนเผ่
า เพื่
อจะได้
ตระหนั
ก และเห็
นถึ
งความสำ
�คั
ญของการอยู่
ร่
วมกั
นอย่
างสั
นติ
สุ
ข
ท่
ามกลางความหลากหลายทางวั
ฒนธรรมของสั
งคมไทยและสั
งคมโลก