Page 38 - may53

Basic HTML Version

๓๖
หลั
งจาก ๓,๖๐๐-๒,๕๐๐ ปี
มาแล้
วนั้
น มนุ
ษย์
ใน
ชุ
มชนของสั
งคมกสิ
กรรมจึ
งรู้
จั
กปลู
กข้
าวด้
วยวิ
ธี
การกั
กเก็
น้ำ
(INUNDATION SYSTEM)
ซึ่
งทำ
�นาโดยรู้
จั
กใช้
เหล็
เป็
นทำ
�เครื่
องมื
อมาถากถางขยายพื้
นที่
ทำ
�นา และรู้
จั
กเลี้
ยง
ควายมาใช้
งานเป็
นเครื่
องทุ่
นแรงโดยมี
การไถพรวนดิ
นแล้
อาจจะหว่
านเมล็
ดข้
าวลงไป แทนวิ
ธี
การ การทำ
�นาแบบ
เลื่
อนลอยคอยย้
ายที่
ดิ
นมาใช้
วิ
ธี
กั
กเก็
บน้ำ
�ใส่
ไว้
ในที่
ดิ
น หรื
หาแอ่
งน้ำ
�เป็
นแปลงทำ
�นาปลู
กข้
าว โดยเฉพาะรู้
จั
กยกคั
นดิ
กั้
นน้ำ
�เป็
นอั
นนา ทำ
�ให้
ชุ
มชนนั้
นไม่
ต้
องเคลื่
อนย้
ายที่
ดิ
เพาะปลู
กบ่
อยๆ แต่
ต้
องเลี้
ยงควายใช้
เป็
นแรงงานไถนาและ
ขนย้
ายพื
ชพั
นธ์
ธั
ญญาหาร
ข้
าวนั้
นเป็
นอาหารหลั
กของชุ
มชนโบราณในภาค
อี
สานมาหลายพั
นปี
การเพาะปลู
กข้
าวนั้
นน่
าจะเริ่
มมาจาก
จี
นตอนเหนื
อซึ่
งนิ
ยมปลู
กข้
าวฟ่
างแล้
วจึ
งแพร่
ขยายลงมา
ทางภาคอี
สาน พบหลั
กฐานจากร่
องรอยของแกลบข้
าวหรื
เปลื
อกเมล็
ดข้
าวประทั
บอยู่
บนเนื้
อภาชนะเศษดิ
นเผาที่
พบ
จากแหล่
งโบราณคดี
บนที่
ราบ และแกลบที่
ฝั
งในสนิ
มเหล็
ซึ่
งอยู่
บนอาวุ
ธที่
ทำ
�ด้
วยเหล็
กสมั
ยก่
อนประวั
ติ
ศาสตร์
การ
เปลี่
ยนแปลงวิ
ธี
การทำ
�นานั้
นน่
าจะสื
บเนื่
องมาจากการเพิ่
จำ
�นวนประชากรที่
มี
มากขึ้
น ทำ
�ให้
มี
การหาวิ
ธี
การทำ
�นาเพื่
ให้
มี
ผลผลิ
ตเพิ่
มเพี
ยงพอกั
บจำ
�นวนผู้
คนที่
ช่
างขยั
นแพร่
เผ่
าพั
นธ์
หรื
อนิ
ยมทำ
�ลู
กหลานให้
เพิ่
มขึ้
ดั
งนั้
นชุ
มชนกสิ
กรรมในภาคอี
สานจึ
งรู้
จั
กทำ
�โลหะ
ขึ้
นก่
อนแหล่
งโบราณคดี
อื่
นในประเทศไทยคื
อเมื่
อ ๓,๐๐๐-
๕,๐๐๐ ปี
รู้
จั
กทำ
�สำ
�ริ
ด และเมื่
อ ๒,๕๐๐-๓,๖๐๐ ปี
มาแล้
วรู้
จั
ทำ
�เหล็
ก ต่
อมาในแหล่
งโบราณคดี
อื่
นก็
พบว่
ามี
การทำ
�โลหะ
เช่
นเดี
ยวกั
น สำ
�หรั
บแหล่
งโบราณคดี
ที่
บ้
านเชี
ยงนั้
นพบว่
เริ่
มทำ
�สำ
�ริ
ดจากการนำ
�ทองแดงผสมกั
บดี
บุ
ก เมื่
อประมาณ
๕,๕๐๐ - ๕,๖๐๐ ปี
มาแล้
ว ถื
อว่
าเก่
าแก่
กว่
าการทำ
�สำ
�ริ
ดใน
บริ
เวณตะวั
นออกกลางที่
เริ่
มทำ
�สำ
�ริ
ดด้
วยการนำ
�ทองแดง
ผสมกั
บสารหนู
หรื
อพลวงก่
อนแล้
วจึ
งรู้
จั
กนำ
�ทองแดงผสม
ดี
บุ
ก เมื่
อประมาณ ๓,๒๐๐ ปี
มาแล้
ว ก่
อนการทำ
�เหล็
กจะ
เข้
ามาแทนที่
เมื่
อประมาณ ๓,๖๐๐ ปี
มาแล้
ว ทำ
�ให้
สำ
�ริ
ดนั้
ได้
เปลี่
ยนรู
ปแบบจากอาวุ
ธเป็
นเครื่
องประดั
บหรื
ออย่
างอื่
แทน ส่
วนการทำ
�อาวุ
ธนั้
นใช้
เหล็
กทำ
ดั
งนั้
นพื้
นที่
แถบเอเซี
ยตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
ได้
แก่
ไทย ลาว จี
น พม่
าและกั
มพู
ชา จึ
งเป็
นแหล่
งโบราณคดี
ที่
มี
แร่
ทองแดง ดี
บุ
กและเหล็
ก ที่
มี
จำ
�นวนเพี
ยงพอทำ
�ให้
มี
การ
พั
ฒนาการทำ
�โลหะขึ้
นนั
บว่
าภาคอี
สานนั้
นเป็
นแหล่
งทำ
�สำ
�ริ
ที่
มี
อายุ
เก่
าแก่
แห่
งหนึ่
สั
งคมกสิ
กรรมนั้
นเป็
นชุ
มชนที่
มี
การเพาะปลู
ก เลี้
ยง
สั
ตว์
ประเพณี
การฝั
งศพ ทำ
�เครื่
องมื
อ เครื่
องใช้
ด้
วยหิ
รู้
จั
กทำ
�เครื่
องสำ
�ริ
ดและเครื่
องมื
อเหล็
ก รู้
จั
กการค้
าขายแลก
เปลี่
ยนสิ
นค้
ากั
บชุ
มชนอื่
นๆ ตั้
งแต่
เริ่
มตั้
งถิ่
นฐาน ในการขุ
สำ
�รวจที่
แหล่
งโบราณคดี
บ้
านเชี
ยง โนนนกทา และบ้
านนาดี
นั้
นพบว่
าชั้
นดิ
นชั้
นล่
างสุ
ดพบเครื่
องสำ
�ริ
ด ซึ่
งเป็
นส่
วนผสม
ระหว่
างทองแดงกั
บดี
บุ
ก นอกจากนี้
ยั
งพบว่
าแหล่
งดี
บุ
กนั้
อยู่
ที่
ลาวและแหล่
งทองแดงอยู่
ที่
จั
งหวั
ดเลย จึ
งเข้
าใจว่
าต้
อง
มี
การแลกเปลี่
ยนโลหะทั้
งสองแหล่
งมาใช้
ทำ
�สำ
�ริ
ดตั้
งแต่
เริ่
ตั้
งถิ่
นฐาน เช่
นเดี
ยวกั
นก็
มี
การแลกเปลี่
ยนสิ
นค้
าอื่
นๆ
สั
งคมกสิ
กรรมในภาคอี
สานเริ่
มเมื่
อประมาณ ๖,๐๐๐
ปี
มาแล้
ว และสิ้
นสุ
ดเมื่
อประมาณ ๒,๐๐๐ ปี
มาแล้
แหล่
งโบราณคดี
ของสั
งคมกสิ
กรรมที่
เก่
าแก่
ที่
สุ
ดคื
แหล่
งโบราณคดี
บ้
านเชี
ยง ตำ
�บลบ้
านเชี
ยง อำ
�เภอหนองหาน
จั
งหวั
ดอุ
ดรธานี
และแหล่
งโบราณคดี
บ้
านโนนนกทา อำ
�เภอ
ภุ
เวี
ยง จั
งหวั
ดขอนแก่
น มนุ
ษย์
ก่
อนประวั
ติ
ศาสตร์
ที่
ตั้
งถิ่
นฐาน
ในชุ
มชนนี้
ไม่
มี
หลั
กฐานที่
มา (น่
าจะมาจากแหล่
งอื่
น) แต่
เข้
มาอาศั
ยพื้
นที่
ราบทำ
�การเพาะปลู
กข้
าว เลี้
ยงสั
ตว์
ทำ
�เครื่
อง
มื
อสำ
�ริ
ดเลย เวลาต่
อมาจึ
งมี
การติ
ดต่
อกั
บชุ
มชนอื่
น แล้
ขยายตั
วออกไปอย่
างกว้
างขวางจนทำ
�ให้
การเพาะปลู
กเกิ
ขึ้
นจำ
�นวนในแหล่
งโบราณคดี
ทางภาคอี
สาน แหล่
งโบราณคดี
ของสั
งคมกสิ
กรรมที่
สำ
�คั
ญในช่
วง ๕,๖๐๐ ปี
มาแล้
ว - ๓,๐๐๐ ปี
มาแล้
วนั้
นตั้
งอยู่
บริ
เวณตอนเหนื
อของภาคอี
สานเรี
ยกว่
แอ่
งสกลนคร นั
บว่
าเป็
นถิ่
นฐานของสั
งคมกสิ
กรรมที่
เก่
าแก่