๑๔
วั
นวิ
สาขบู
ชา
หรื
อวั
นสำ
�คั
ญของโลก คื
อ การบู
ชาใน
วั
นเพ็
ญเดื
อนวิ
สาขะ (ตรงกั
บวั
นขึ้
น ๑๕ ค่ำ
� เดื
อน ๖) เป็
นวั
น
ที่
มี
ความสำ
�คั
ญเกี่
ยวกั
บพระพุ
ทธเจ้
า ๓ ประการ
คื
อ ประสู
ติ
ตรั
สรู้
และปริ
นิ
พพาน
เหตุ
การณ์
ทั้
ง ๓ นี้
เกิ
ดขึ้
นต่
างคราว
กั
นแต่
เวี
ยนมาบรรจบครบรอบในวั
นเพ็
ญเดื
อนวิ
สาขะของ
แต่
ละรอบ กล่
าวคื
อ พระพุ
ทธเจ้
า
ประสู
ติ
ที่
สวนลุ
พพิ
นี
วั
น
เมื่
อวั
นเพ็
ญเดื
อนวิ
สาขะก่
อนพุ
ทธศั
กราช ๘๐ ปี
ตรั
สรู้
ที่
อุ
รุ
เวลาเสนานิ
คม แคว้
นมคธ เมื่
อวั
นเพ็
ญเดื
อนวิ
สาขะก่
อน
พุ
ทธศั
กราช ๔๕ ปี
และ
เสด็
จดั
บขั
นธปริ
นิ
พพาน
ที่
สาล-
วโนทยานของมั
ลลกษั
ตริ
ย์
กรุ
งกุ
สิ
นารา แคว้
นมั
ลละ เมื่
อ
วั
นเพ็
ญเดื
อนวิ
สาขะก่
อนพุ
ทธศั
กราช ๑ ปี
อาศั
ยเหตุ
การณ์
สำ
�คั
ญและน่
าอั
ศจรรย์
นี้
เป็
นที่
ตั้
ง ประเทศที่
นั
บถื
อพระพุ
ทธ
ศาสนาอย่
างศรี
ลั
งกาจึ
งเป็
นผู้
นำ
�ในการกำ
�หนดให้
มี
วั
น
วิ
สาขบู
ชาเพื่
อบู
ชาความยิ่
งใหญ่
ของพระพุ
ทธเจ้
า
เมื่
อพระพุ
ทธศาสนาเถรวาทแบบลั
งกาเข้
ามาเผยแผ่
ในประเทศไทยตั้
งแต่
สมั
ยสุ
โขทั
ย ก็
ได้
มี
การถื
อปฏิ
บั
ติ
พิ
ธี
วิ
สาขบู
ชาและปฏิ
บั
ติ
สื
บมาทุ
กสมั
ย จนมาถึ
งสมั
ยกรุ
ง
รั
ตนโกสิ
นทร์
พระบาทสมเด็
จพระพุ
ทธยอดฟ้
าจุ
ฬาโลก
มหาราช (รั
ชกาลที่
๑)
ยั
งทรงรั
กษาประเพณี
วิ
สาขบู
ชา
ไว้
มาถึ
ง
สมั
ยพระบาทสมเด็
จพระพุ
ทธเลิ
ศหล้
านภาลั
ย
(รั
ชกาลที่
๒)
ทรงออกพระราชกำ
�หนดพิ
ธี
วิ
สาขบู
ชาเพื่
อ
กำ
�หนดวิ
ธี
การต่
างๆ ให้
เป็
นแบบแผนปฏิ
บั
ติ
สื
บไป ทรงมี
พระบรมราชโองการให้
ตกแต่
งดอกไม้
แขวนประดั
บไว้
ที่
วั
ด
พระศรี
รั
ตนศาสดาราม ทั้
งทรงให้
ประกาศให้
ราษฎรรั
กษาศี
ล
ฟั
งเทศน์
เลี้
ยงพระ จุ
ดโคมตามประที
ปบู
ชาทั้
งพระอาราม
และบ้
านเรื
อน
สมั
ยพระบาทสมเด็
จพระนั่
งเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว
(รั
ชกาลที่
๓)
ทรงกำ
�หนดให้
มี
เทศน์
เรื่
องปฐมสมโพธิ
ในวั
นวิ
สาขบู
ชาว่
าด้
วยประวั
ติ
ของพระพุ
ทธเจ้
า ตั้
งแต่
ประสู
ติ
ตรั
สรู้
และปริ
นิ
พพาน
ในสมั
ยพระบาทสมเด็
จ
พระจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว (รั
ชกาลที่
๔)
ทรงกำ
�หนดให้
เจ้
านาย
กั
บข้
าราชการตั้
งโต๊
ะเครื่
องบู
ชาตามรอบเฉลี
ยงพระอุ
โบสถ
วั
ดพระศรี
รั
ตนศาสดาราม ต่
อมาจึ
งทรงกำ
�หนดให้
ข้
าราชการ
ทำ
�โคมตราตำ
�แหน่
งมาแขวนตามศาลารายและพระระเบี
ยง
โดยรอบเป็
นกา ร เ อิ
ก เ กริ
ก
สมั
ยพระบาทสมเด็
จ
พระจุ
ลจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว (รั
ชกาลที่
๕)
ทรงให้
พระบรม
วงศานุ
วงศ์
และข้
าราชการฝ่
ายในเดิ
นเที
ยน (การถื
อเที
ยน
เดิ
นเวี
ยนรอบพระอุ
โบสถ) และสวดมนต์
ที่
พระพุ
ทธรั
ตนสถาน
วิ
ธี
ปฏิ
บั
ติ
นี้
ถื
อเป็
นแบบอย่
างการเวี
ยนเที
ยนในรั
ชกาลต่
อๆ
มาจนถึ
งรั
ชกาลปั
จจุ
บั
น
วั
นวิ
สาขบู
ชามี
หลั
กธรรมที่
สำ
�คั
ญและควรนำ
�มา
ปฏิ
บั
ติ
คื
อ
อริ
ยสั
จ ๔
คื
อ
ความจริ
งอั
นประเสริ
ฐ
เกิ
ดมี
สิ
ริ
วิ
ภา ขุ
นเอม...เรี
ยบเรี
ยง