๓๔
บรรพบุ
รุ
ษ ที่
สถิ
ตอยู่
บาดาลคื
อใต้
ดิ
น ดั
งนั้
นเมื่
อคนตาย
ลง ต้
องกลั
บไปหาบรรพบุ
รุ
ษในถิ่
นเดิ
ม คื
อโลกบาดาล
หรื
อเรี
ยกอี
กอย่
างหนึ่
งว่
า ทำ
�โลงศพด้
วยไม้
เป็
นรู
ปงู
หรื
อ
นาคแล้
วเรี
ยกภายหลั
งว่
าเรื
อ (สุ
จิ
ตต์
วงษ์
เทศและคณะ,
๒๕๕๐:๑๐-๑๑) โดยรู
ปแบบดั
งกล่
าวยั
งปรากฏอยู่
ในกลุ่
ม
ชนพื้
นเมื
อง ทั้
งกลุ่
ม ขมุ
หรื
อ กำ
�มุ
ที่
ต่
อมาเรี
ยกกั
นว่
าลาว
เทิ
งในสปปลาว. หรื
อกระตู
ในเวี
ยดนาม ที่
นิ
ยมจำ
�หลั
ก
ลวดลายโลงศพเป็
น งู
หรื
อพญานาค
งู
หรื
อ
นาค
ในเชิ
งสั
ญลั
กษณ์
ทางวั
ฒนธรรม ถู
กใช้
หรื
อถู
กอธิ
บายอยู่
ในมิ
ติ
ที่
หลากหลาย ทั้
งสิ่
งที่
ดี
หรื
อสิ่
งที่
เลวเฉกเช่
นงู
ถู
กใช้
เป็
นสั
ญลั
กษณ์
ของการรั
กษาพยาบาล
ก็
ได้
เพราะว่
ามั
นมี
พลั
งชี
วิ
ตดั่
งเช่
นทางการแพทย์
เอางู
มา
เป็
นสั
ญลั
กษณ์
จนกระทั่
งทุ
กวั
นนี้
แต่
ในขณะเดี
ยวกั
นงู
ก็
กั
ดคนตายงู
ทำ
�ลายสั
ตว์
อื่
นๆที่
เป็
นเหยื่
อเป็
นอาหารของ
มั
นฉะนั้
นงู
จึ
งเป็
นสั
ญลั
กษณ์
ของการทำ
�ลายด้
วยจะเห็
นว่
า
ใช้
งู
เป็
นสั
ญลั
กษณ์
ของการทำ
�ลายก็
ได้
ใช้
งู
เป็
นสั
ญลั
กษณ์
การนำ
�นาคมาเป็
นส่
วนประดั
บตกแต่
งในองค์
ประกอบสถาปั
ตยกรรมในวั
ฒนธรรมความเชื่
อทางพุ
ทธ
ของการรั
กษาก็
ได้
ในอี
กด้
านหนึ่
งของคติ
ที่
เกี่
ยวกั
บงู
หรื
อ
นาค ที่
ปรากฏอยู่
ในนิ
ทานพื้
นเมื
องของประเทศต่
างๆ
ในแถบนี้
ดั่
งที่
ได้
กล่
าวไว้
แล้
วในเบื้
องต้
น แสดงให้
เห็
น
ว่
างู
หรื
อนาคเป็
นสั
ญลั
กษณ์
ของความอุ
ดมสมบู
รณ์
เป็
น
สั
ญลั
กษณ์
ของชี
วิ
ตด้
วย ฉะนั้
นการแต่
งงานกั
บงู
หรื
อการ
ได้
รั
บการยิ
นยอมจากงู
คื
อการได้
รั
บสิ
ทธิ
ในอำ
�นาจทางโลก
ในอำ
�นาจการมี
พลั
งชี
วิ
ตหรื
อพลั
งพลั
งความสมบู
รณ์
ของ
ราชอาณาจั
กรไปพร้
อมกั
น ทั้
งหมดเป็
นสั
ญลั
กษณ์
เพื่
อจะ
ทำ
�ความเข้
าใจว่
าคนๆนั้
นจะได้
รั
บอำ
�นาจพิ
เศษบางอย่
าง
จากสิ่
งลี้
ลั
บทั้
งหลายเหล่
านั้
น (นิ
ธิ
เอี
ยวศรี
วงศ์
, ๒๕๔๙
: ๕๔-๕๕)
แม้
ในวิ
ถี
สั
งคมปั
จจุ
บั
นโดยเฉพาะวิ
ถี
สั
งคมใหม่
ทั
ศนคติ
ต่
อความเชื่
อที่
มี
ต่
ออำ
�นาจเหนื
อธรรมชาติ
ที่
มั
ก
ถู
กมองว่
าเป็
นสิ่
งที่
งมงาย ไม่
มี
เหตุ
ผลหรื
อขาดคำ
�อธิ
บาย
ในเชิ
งวิ
ทยาศาสตร์
บ้
างก็
มองเป็
นเรื่
องของคน ที่
ไม่
มี
ความรู้
ขาดการศึ
กษาตามคอกความคิ
ดที่
ว่
าคนมี
การ
ศึ
กษาต้
องไม่
เชื่
อในสิ่
งที่
มองไม่
เห็
นหรื
อขาดคำ
�อธิ
บาย
ในเชิ
งวิ
ทยาศาสตร์
แต่
ทั้
งนี้
สั
งคมไทยยั
งมี
วลี
อมตะไว้
คอยแก้
ต่
างในลั
กษณะแบ่
งรั
บแบ่
งสู้
ให้
ดู
ดี
แบบกล้
าๆ
กลั
วๆ ที่
ว่
า
ไม่
เชื่
ออย่
าลบหลู่
และสิ่
งหนึ่
งที่
สะท้
อน
ให้
เห็
นจากปรากฏการณ์
นาคาคติ
โดยเฉพาะในบริ
บท
ของสุ
วรรณภู
มิ
คื
อเราเห็
นพลั
งต่
อรองของวั
ฒนธรรม
เดิ
ม (นาคาคติ
) กั
บอิ
ทธิ
พลวั
ฒนธรรมภายนอกที่
เข้
ามา
พร้
อมกั
บศาสนาและการค้
าขายส่
งผลให้
วั
ฒนธรรมพื้
น
ถิ่
นเดิ
มต้
องมี
การยอมรั
บปรั
บแต่
ง กั
บเงื่
อนไขตั
วแปร
ใหม่
ของบริ
บทที่
เปลี่
ยนแปลงในสิ่
งที่
ดี
กว่
า อย่
างมี
ราก
ของวั
ฒนธรรมเดิ
มอั
นเป็
นสั
งคมแบบ มาตาธิ
ปไตย ที่
นั
บถื
อผี
โดยให้
เกี
ยรติ
ผู้
หญิ
งหรื
อเพศแม่
ขณะเดี
ยวกั
น
เมื่
อปรั
บเปลี่
ยนมาสู่
สั
งคมแบบ ปิ
ตาธิ
ปไตย ผ่
านศาสนา
นาคในองค์
ประกอบศาสนาคารและโรงศพของ
วั
ฒนธรรมชนเผ่
าขมุ
หรื
อกำ
�มุ
ที่
เรี
ยกว่
า
หอกว้
านหรื
อหอก๊
วน ของสปปลาวตอนใต้