Page 33 - mar53

Basic HTML Version

ลาวคงนั
บถื
อผี
คื
อบรรพบุ
รุ
ษผู้
มี
พระคุ
ณที่
ล่
วงลั
บไปแล้
และมี
ลั
ทธิ
บู
ชางู
โดยเหตุ
ที่
ได้
อพยพโยกย้
ายมาสู่
อาณา
บริ
เวณที่
เป็
นเขตมรสุ
มฝนตกชุ
กมี
สั
ตว์
ร้
ายนานาชนิ
โดยเฉพาะคงจะถู
กงู
กั
ดตายมาก จึ
งยอมจำ
�นนแล้
วบู
ชา
จะเห็
นรู
ปปั้
นงู
ในสมั
ยก่
อนเป็
นหั
วงู
จงอางซึ่
งเรี
ยกกั
นว่
งู
ซวง
ต่
อมาจึ
งเติ
มหงอนขึ้
นคล้
ายกั
บสวมชฏาให้
งู
แล้
ใช้
เป็
นลวดลายประดั
บไว้
ตามสถานที่
เคารพ เช่
นบน
หลั
งคาโบสถ์
วิ
หารหรื
อตามข้
างบั
นไดทางขึ้
นลง ต่
อมา
ชนพวกนี้
จึ
งยอมรั
บนั
บถื
พุ
ทธศาสนาในสมั
ยก่
อนสร้
าง
พระอุ
รั
งคธาตุ
นอกจากนี้
ยั
งพบวั
ฒนธรรมการสั
กที่
เกี่
ยวข้
อง
กั
บนาคที่
ว่
า พวก
อ้
ายลาว
โดยคำ
�ว่
าอ้
ายลาวหมาย
ถึ
ชนชาติ
ไทยคื
อลาว
แต่
โบราณนานมาเรี
ยกกั
นว่
“อ้
ายลาว”
(มานิ
ต วั
ลลิ
โภดม ๒๕๒๑:๑๑๗) นิ
ยมสั
กตั
ด้
วยหมึ
ก โดยเฉพาะ มณฑลยู
นานกั
บไกวเจานั้
จี
นหรื
ฮั่
เลยเรี
ยก
พวกนี้
ว่
ขึ่
นหมาน
ที่
แปลว่
งู
ใหญ่
ความ
ข้
อนี้
นำ
�ไปพิ
เคราะห์
เปรี
ยบเที
ยบกั
บพงศาวดารญวนที่
เล่
ว่
พระเจ้
าหลากกองลุ
เป็
นเชื้
อสายพระยานาค และ
ทรงประกาศบั
งคั
บให้
พลเมื
องของพระองค์
สั
กเนื้
อตั
วให้
เป็
น รู
ปนาค รู
ปงู
เพื่
อป้
องกั
นอสรพิ
นั้
น ก็
ได้
ความรู้
ว่
าชนเหล่
นั้
นคื
อพวกอ้
ายลาว ต่
อมาชนเผ่
าอ้
ายลาวที่
เคลื่
อนตั
มาอยู่
ทางอาณาจั
กรล้
านนา และล้
านช้
าง (ซึ่
งแนวคิ
ดั
งกล่
าวยั
งสอดคล้
องกั
บการศึ
กษาของนั
กวิ
ชาการลาว
(
หุ
มพั
น รั
ตนวงศ์
,
๒๕๓๗:๑๐๘) กั
บความเชื่
อที่
ว่
คน
ลาวและตระกู
ลของคนลาวเป็
นนาค
) ยั
งนิ
ยมทำ
�การสั
ตั
วด้
วยหมึ
กอยู่
เนื่
องจากได้
รั
บ อิ
ทธิ
พลทางศาสนาจาก
อิ
นเดี
ย มากขึ้
นกว่
าเดิ
ม จึ
เปลี่
ยนลวดลายการสั
จาก
รู
ปนาค รู
ปงู
เป็
สั
ตว์
ป่
าหิ
มพานต์
ตามคติ
ของอิ
นเดี
เช่
น รู
ปมอม(สิ
งห์
โต) และรู
ปนก
(จารุ
บุ
ตร เรื
องสุ
วรรณ
๒๕๒๑:๑๒)
ดั
งนั้
นจะเห็
นได้
ว่
า นาค คื
อผู้
บั
นดาลให้
เกิ
ดแม่
น้ำ
ลำ
�คลองเกิ
ดความสมบู
รณ์
พู
นสุ
ขแก่
บ้
านเมื
องและอาจ
บั
นดาลภั
ยพิ
บั
ติ
ให้
น้ำ
�ท้
วมเกิ
ดความล่
มจมแก่
บ้
านเมื
อง
ก็
ได้
นาคมี
ความสั
มพั
นธ์
กั
บคนในฐานะเป็
นบรรพบุ
รุ
เช่
น ประวั
ติ
ของอาณาจั
กรฟู
นั
นในจดหมายเหตุ
จี
นกล่
าว
ว่
พราหมณ์
มาแต่
งงานกั
บลู
กสาวนาค
แล้
วตั้
งตั
วเป็
กษั
ตริ
ย์
ปกครองฟู
นั
น หรื
อในตำ
�นานอุ
รั
งคธาตุ
กล่
าวถึ
การที่
พระพุ
ทธเจ้
าทรงทรมานพวกนาค จนเลื่
อมใสใน
พระพุ
ทธศาสนา
กลายเป็
นผู้
อุ
ปถั
มภ์
พระพุ
ทธศาสนาไป
ยิ่
งไปกว่
านั้
นนาคยั
งเป็
นสถาบั
นที่
ศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
ในการ
ปกครองและความยุ
ติ
ธรรม (ศรี
ศั
กร วั
ลลิ
โภดม, ๒๕๔๖
: ๑๒)
ใน
คติ
พุ
ทธ นาค เป็
นสั
ญลั
กษณ์
แทนกิ
เลส
หรื
ความชั่
วร้
ายทั้
งหลาย กิ
เลสอั
นชั่
วร้
ายที่
มี
พิ
ษสงฉกาจ
ฉกรรจ์
ทำ
�ให้
คนทั้
งโลกตกอยู่
ภายใต้
อำ
�นาจนั้
น บั
ดนี้
ได้
ถู
พระพุ
ทธเจ้
าทรงเอาชนะมั
นได้
การที่
พระพุ
ทธเจ้
าประทั
นั่
งบนพญานาคเท่
ากั
บบอกให้
โลกรู้
ว่
าบั
ดนี้
พระพุ
ทธเจ้
ทรงเอาชนะกิ
เลสทั้
งมวลได้
เด็
ดขาดแล้
ว (เสถี
ยรพงษ์
วรรณปก, ๒๕๓๗:๓๗) นอกจากนี้
ยั
งมี
ช้
าง
เป็
นสั
ตว์
สั
ญลั
กษณ์
อย่
างหนื่
งที่
เกี่
ยวข้
องเนื่
องในวั
ฒนธรรม
นาคาคติ
ดั่
งปรากฏหลั
กฐานในตำ
�นานสิ
งหนวติ
กุ
มาร
เรื่
อง
พระเจ้
าพรหม
ว่
งู
ใหญ่
(นาค)
กลายร่
างเป็
ช้
างเผื
อกชื่
ช้
างพานคำ
เป็
นพาหนะ
คู่
บุ
ญทั้
งพระเจ้
พรหมและท้
าวฮุ่
งหรื
อขุ
นเจื
อง
ในส่
วนของความเป็
นสั
ญลั
กษณ์
จากงู
สู่
นาคโดย
ถู
กปรั
บเปลี่
ยนตามภาษาศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
ดั
งปรากฏอยู่
ที่
ลวดลายเขี
ยนสี
บนหม้
อเครื่
องปั้
นดิ
นเผาจำ
�นวน
มากที่
ทำ
�ขึ้
นเพื่
อเซ่
นบู
ชาศพ ดั
งที่
ได้
กล่
าวไว้
แล้
ในเบื้
องตน หรื
อจะเห็
นได้
จากการที่
รู
ปสั
ญลั
กษณ์
นาคถู
กนำ
�ไปผู
กติ
ดเป็
นองค์
ประกอบสำ
�คั
ญอยู่
กั
บั้
งไฟ ที่
มนุ
ษย์
จุ
ดไปขอฝน โดยมี
ลั
กษณะแบบ
งู
หรื
อนาค จะสามารถพบได้
ในกลุ่
มวั
ฒนธรรม
ไทยลาวในหลายประเทศ นอกจากนี้
ยั
งมี
งานพุ
ทธ
วั
ฒนธรรมการสั
กที่
เชื่
อมโยงกั
บอดี
ตของลั
ทธิ
การบู
ชางู
ของพวกนาคที่
ยั
งสื
บต่
อมายั
งปั
จจุ
บั
๓๑