Page 29 - mar53

Basic HTML Version

ดอกบั
ว เพื่
อเป็
นอนุ
สรณ์
แก่
บ้
านเมื
องเดิ
ม ครั้
นต่
อมาเมื่
อำ
�เภอยโสธร และอำ
�นาจเจริ
ญซึ่
งอยู่
ในเขตปกครองของ
จั
งหวั
ดอุ
บลราชธานี
ได้
รั
บการยกฐานะขึ้
นเป็
นจั
งหวั
ใน พ.ศ. ๒๕๑๕ และ พ.ศ. ๒๕๓๖ ตามลำ
�ดั
บ ก็
ได้
นำ
ดอกบั
วมาเป็
นองค์
ประกอบในตราสั
ญลั
กษณ์
ของจั
งหวั
ด้
วย เพื่
อเป็
นอนุ
สรณ์
ว่
าเคยเป็
นส่
วนหนึ่
งของจั
งหวั
ด้
วย เพื่
อเป็
นอนุ
สรณ์
ว่
าเคยเป็
นส่
วนหนึ่
งของจั
งหวั
อุ
บลราชธานี
มาก่
อน
จั
งหวั
ดหนองบั
วลำ
�ภู
เป็
นจั
งหวั
ดใหม่
ของ
ประเทศไทยตั้
งขึ้
นเมื่
อปี
พ.ศ. ๒๕๓๖ พร้
อมกั
บจั
งหวั
อำ
�นาจเจริ
ญ และจั
งหวั
ดสระแก้
ว เดิ
มมี
ฐานะเป็
นอำ
�เภอ
หนึ่
งของจั
งหวั
ดอุ
ดรธานี
ประวั
ติ
ของเมื
องก่
อตั้
งขึ้
นในปี
พ.ศ. ๒๔๓๘ ตรงกั
บรั
ชสมั
ยพระบาทสมเด็
จพระนั่
งเกล้
เจ้
าอยู่
หั
ว มี
นามว่
า เมื
องกมุ
ทธไสยบุ
รี
รั
มย์
เรี
ยกเป็
สามั
ญว่
า เมื
องกมุ
ทาสั
ย สมเด็
จพระบรมวงศ์
เธอ กรม
พระยาดำ
�รงราชานุ
ภาพทรงสื
บความได้
ว่
า บริ
เวณแห่
งนี้
ครั้
นสมั
ยอยุ
ธยา เคยเป็
นเมื
องหน้
าด่
านมี
ชื่
อปรากฏ
ในพระราชพงศาวดารว่
า เมื
องหนองบั
วลำ
�ภู
มี
ความ
สำ
�คั
ญเนื่
องมาจากสมเด็
จพระนเรศวรมหาราชได้
เสด็
จมา
ประชวรพระโรคไข้
ทรพิ
ษขณะกำ
�ลั
งนำ
�กองทั
พไปตี
เมื
องศรี
สั
ตนาคนหุ
ต จึ
งมี
รั
บสั่
งให้
เปลี่
ยนกลั
บไปใช้
ชื่
อเมื
องเดิ
มว่
า หนองบั
วลำ
�ภู
ตราสั
ญลั
กษณ์
ประจำ
จั
งหวั
ดจึ
งอั
ญเชิ
ญภาพพระบรมฉายาลั
กษณ์
สมเด็
พระนเรศวรมหาราช ทรงพระแสงดาบ ประทั
บยื
หน้
าศาลาทรงไทยซึ่
งตั้
งอยู่
ริ
มฝั่
งหนองบั
วลำ
�ภู
จั
งหวั
ดสระแก้
ในอดี
ตคื
อเมื
องหน้
าด่
าน
สำ
�คั
ญทางชายแดนภาคตะวั
นออก มี
อาณาเขตติ
ดต่
กั
บราชอาณาจั
กรกั
มพู
ชาในปี
พ.ศ. ๒๓๒๓ สมเด็
พระเจ้
าตากสิ
นมหาราชโปรดเกล้
าฯให้
เสด็
จเจ้
าพระยา
มหากษั
ตริ
ย์
ศึ
ก เป็
นแม่
ทั
พยกไปตี
กรุ
งกั
มพู
ชา ทรงพบ
สระน้ำ
�โบราณสองสระ โปรดฯให้
หยุ
ดทั
พอาศั
ยน้ำ
�ใน
สระทั้
งสองบริ
โภคใช้
สอย จึ
งพระราชทานนามสระทั้
สองนี้
ว่
า สระแก้
วสระขวั
ญ ต่
อมาถื
อกั
นว่
ามี
น้ำ
�บริ
สุ
ทธิ์
และศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
ใช้
ประกอบพระราชพิ
ธี
ถื
อน้ำ
�พิ
พั
ฒน์
สั
ตยา
ตลอดมา ตราสั
ญลั
กษณ์
ประจำ
�จั
งหวั
ดเป็
นรู
ปสระแก้
วอั
กว้
างใหญ่
อุ
ดมด้
วยดอกบั
ว กลางสระมี
พระพุ
ทธรู
ปประจำ
จั
งหวั
ดปางสรี
ระประทั
บยื
นบนดอกบั
วบาน
จั
งหวั
ดหนองคาย
จั
งหวั
ดใหญ่
และสำ
�คั
ญจั
งหวั
หนึ่
งของภาคอี
สานตอนบน ความจริ
งหนองคายเคย
เป็
นชื่
อเมื
องเก่
าที่
ตั้
งใกล้
กั
บนครจำ
�ปาศั
กดิ์
ครั้
นเมื่
อท้
าว
อสุ
ธรรม สถาปนาเมื
องใหม่
ก็
ได้
นำ
�ชื่
อหนองคายมาตั้
ให้
กั
บเมื
องใหม่
แต่
เดิ
มบริ
เวณมี
มรชุ
มชนชื่
อว่
า บ้
านไผ่
กั
บมี
หนองน้ำ
�กว้
างใหญ่
อยู่
ทางทิ
ศตะวั
นตกของเมื
อง จึ
ถื
อเอาสั
ญลั
กษณ์
มงคลเป็
นรู
ปกอไผ่
ขึ้
นอยู่
ริ
มหนองน้ำ
�ที่
อุ
ดมด้
วยดอกบั
วงามเป็
นสั
ญลั
กษณ์
ประจำ
�จั
งหวั
จั
งหวั
ดพิ
จิ
ตร
ฟั
งชื่
อแล้
วไม่
น่
ามี
อะไรเกี่
ยว
กั
บบั
ว แต่
ภู
มิ
ประเทศของพิ
จิ
ตรอุ
ดมด้
วยแหล่
งน้ำ
ธรรมชาติ
มี
ชื่
อในอดี
ตว่
า เมื
องสระหลวง ประกอบกั
ความสำ
�คั
ญทางประวั
ติ
ศาสตร์
ด้
วยสมเด็
จพระเจ้
าเสื
ทรงมี
พระราชสมภพ ณ ตำ
�บลโพธิ์
ประทั
บช้
าง ดั
งนั้
ตราสั
ญลั
กษณ์
ประจำ
�จั
งหวั
ดจึ
งประกอบไป
ด้
วยสระหลวงที่
มี
ดอกบั
วงามกั
บต้
นโพธิ์
อั
นหมายถึ
ง โพธิ
ประทั
บช้
าง นอกจากนี
ดอกไม้
สั
ญลั
กษณ์
ของชาวพิ
จิ
ตรก็
ยั
งเป็
นดอกบั
นอ ก จ า กบั
ว จ ะ มี
ค ว า มสำ
� คั
ญต่
บ้
านเมื
องระดั
บจั
งหวั
ดแล้
ว ในท้
องที่
ระดั
เขตและอำ
�เภอ ก็
ยั
งมี
ประวั
ติ
ความเป็
นมา
ที่
สั
มพั
นธ์
กั
บบั
วอยู่
หลายแห่
ง และหลาย
ลั
กษณะ เป็
นต้
นว่
๒๗