Page 32 - fab53

Basic HTML Version

ในอดี
ตด้
วยแนวคิ
ดซึ่
งซั
บซ้
อนย้
อนแย้
งซึ่
งกั
นและกั
กลาย เป็
นความร่
วมสมั
ยหรื
อนำ
�สมั
ยอั
นมี
บรรทั
ดฐาน
แนวคิ
ดจากวั
ฒนธรรมตะวั
นตกที่
ใช้
เป็
นเครื่
องมื
อธิ
บายความเป็
นไปหรื
อปรากฏการณ์
ทางศิ
ลปะงานช่
าง
แห่
งห้
วงเวลาสถานการณ์
บริ
บทขอบเขตของพื้
นที่
และ
สถานภาพบุ
คคล ภายใต้
กรอบของความเป็
นปั
จจุ
บั
แห่
งห้
วงเวลานั้
นๆ เป็
นสำ
�คั
ญ ทั้
งนี้
ในเกณฑ์
แนวคิ
ดของ
ตะวั
นตกได้
วางกรอบแนวคิ
ดทฤษฎี
ดั
งกล่
าวอยู่
ที่
๒๐ – ๕๐ ปี
หรื
อในราว พ.ศ. ๒๔๘๔ - ๒๔๙๓ เป็
จุ
ดเริ่
มต้
นของการนั
บว่
าเป็
นศิ
ลปะร่
วมสมั
ย ทั้
งหมดนั้
คื
อกรอบแนวคิ
ดนำ
�เข้
าจากตะวั
นตก แท้
ที่
จริ
งแล้
วก็
คื
อความเป็
นปั
จจุ
บั
นสมั
ยในห้
วงขณะเวลานั้
นๆ นั่
นเอง
ส่
วนคำ
�ว่
นำ
�สมั
ก็
หมายความถึ
งการแสดงออกที่
ก้
าว
ล้ำ
�นำ
�หน้
าความร่
วมสมั
ย โดยทั้
งหมดได้
ทำ
�หน้
าที่
เสมื
อน
หนึ่
งกระจกเงาสะท้
อนความเป็
นไปในทางศิ
ลปะงานช่
าง
หรื
อที่
ใช้
คำ
�ว่
สั
งคมเป็
นอย่
างไร ศิ
ลปะก็
เป็
นอย่
างนั้
นั่
นเอง
และโดยเฉพาะงานช่
างทางคติ
ความเชื่
อทาง
ศาสนาที่
มี
โครงสร้
างแบบแผนแห่
งจารี
ตที่
เคร่
งครั
ดใน
รู
ปแบบฉั
นทลั
กษณ์
โดยเฉพาใน
กลุ่
มช่
างหลวง
จะพบว่
ามี
การ
เปลี่
ยนแปลงน้
อยมากส่
วนใหญ่
มั
กปรั
บเปลี่
ยนในส่
วน
วั
สดุ
ที่
สอดคล้
องกั
บเทคโนโลยี
ร่
วมสมั
ยเช่
น การใช้
คอนกรี
ตแทนไม้
หรื
อในส่
วนประณี
ตศิ
ลป์
ก็
จะมี
การ
ผู
กลายใหม่
ตามสายสกุ
ลช่
างจากสำ
�นั
กคิ
ดต่
างๆ ที่
ทรงอิ
ทธิ
พลในห่
วงเวลานั้
นๆ แต่
ทั้
งหมดยั
งคงเคารพ
แบบแผนในโครงสร้
างเดิ
มหรื
อที่
เรี
ยกว่
า ฉั
นทรลั
กษณ์
ในเชิ
งช่
างอย่
างเข้
มงวด ส่
วนงานช่
างชาวบ้
านที่
อยู่
นอก
ราชการจะมี
การเคลื่
อนไหวเปลี่
ยนแปลงอยู่
ตลอดเวลา
ทั้
งรายละเอี
ยดและในภาพรวม ต่
างจากสั
งคมศั
กดิ
นาที่
ต้
องสงวนรั
กษาแบบแผนแห่
งจารี
ตเพื่
อรั
กษาสถานภาพ
ทางสั
งคม
ในวิ
ถี
ปั
จจุ
บั
นที่
เป็
นยุ
คแห่
งเสรี
นิ
ยม (ทั้
งความ
คิ
ดและการกระทำ
�) ที่
ทุ
กคนต่
างมี
สิ
ทธิ
ในการสถาปนา
ความเป็
นตั
วตนได้
อย่
างไม่
ยากในระบบโครงสร้
าง
สั
งคมใหม่
เห็
นได้
จากเรื่
องฐานานุ
ศั
กดิ์
หรื
อการกำ
�หนด
ใช้
องค์
ประกอบส่
วนประดั
บตกแต่
งศาสนาคาร ในอดี
จะสร้
างสำ
�นึ
กร่
วมกั
นของคนในสั
งคมว่
าอะไรใช้
กั
บใคร
และควรมี
รู
ปแบบลั
กษณะอย่
างไร อาทิ
เช่
น รู
ปแบบของ
สถาปั
ตยกรรมแบบวั
ดกั
บวั
ง โดยสามั
ญชนคนธรรมดา
จะไม่
นำ
�องค์
ประกอบรู
ปแบบสถาปั
ตยกรรมเหล่
านั้
นมา
ใช้
โดยไม่
ต้
องมี
กฎหมายมาบั
งคั
บใช้
แต่
เป็
นมโนสำ
�นึ
ที่
ทุ
กคนเข้
าใจในเรื่
องกาละเทศะความเหมาะสมว่
สิ่
งไหนเหมาะสมกั
บสถานภาพของตน กั
บสถานภาพทาง
สั
งคมความเชื่
อ แตกต่
างจากในยุ
คนี้
ที่
ไม่
เข้
าใจ เรื่
อง
กาละเทศะในระบบความเชื่
อทางสั
งคม โดยอาศั
เพี
ยงกรอบแนวคิ
ดเชิ
งปั
จเจกดั
งที่
มี
การนำ
�รู
ปแบบ
สถาปั
ตยกรรมอย่
างวั
ดและวั
งมาทำ
�เป็
โรงแรม อาคาร
โบสถ์
เจดี
ย์
ขนบนิ
ยมนอกรี
๓๐