ศิ
ลปะนี้
ได้
สื
บทอดและเจริ
ญสื
บมาในราชสำ
�นั
ก
สมั
ยรั
ชกาลที่
๕ ก่
อให้
เกิ
ดงานสร้
างสรรค์
ตำ
�รั
บอาหาร
ไทยใหม่
ๆ เกี่
ยวเนื่
องกั
บงานแกะสลั
กเครื่
องสด ครั้
น
ต่
อมาในรั
ชกาลที่
๖ รั
ชกาลที่
๗ และรั
ชกาลที่
๘
เกิ
ดเหตุ
สงครามโลกและวิ
กฤตเศรษฐกิ
จ รวมทั้
งการ
เปลี่
ยนแปลงทางการเมื
องทำ
�ให้
งานศิ
ลปะในราชสำ
�นั
ก
ซบเซาลง
หลายทศวรรษในสมั
ยรั
ชกาลที
่
๙ ได้
มี
การฟื
้
นฟู
ศิ
ลปะงานแกะสลั
กเครื่
องสด (ผั
ก ผลไม้
ใบตอง
ดอกไม้
สด) ด้
วยบทบาทสำ
�คั
ญของอาจารย์
เพ็
ญพรรณ
ทั
้
งในด้
านของความเป็
นผู
้
เชี
่
ยวชาญในด้
านการสร้
างสรรค์
ผลงานสำ
�คั
ญๆ และผลั
กดั
นให้
เกิ
ดหลั
กสู
ตรการเรี
ยน
การสอนวิ
ชาแขนงนี้
ในสถานศึ
กษา จนสามารถสื
บสาน
มรดกสำ
�คั
ญของชาติ
สู่
ยุ
วชนไว้
ได้
รวมถึ
งดำ
�ริ
ให้
มี
การ
จั
ดประกวดงานแกะสลั
กผั
ก ผลไม้
ใบตอง ดอกไม้
สด
ขึ้
นเป็
นคนแรกในเมื
องไทย โดยหลายโครงการจั
ดขึ้
น
เพื่
อเฉลิ
มพระเกี
ยรติ
พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
ว และ
สมเด็
จพระนางเจ้
าสิ
ริ
กิ
ติ์
ฯ พระบรมราชิ
นี
นาถ ในฐานะที่
ราชสำ
�นั
กไทยเป็
นศู
นย์
รวมและรากฐานของศิ
ลปะแขนง
นี้
ช่
วยให้
ศิ
ลปะแขนงนี้
ได้
มี
การสื
บสานและรั
งสรรค์
ขึ้
น
ใหม่
อย่
างกว้
างขวาง เป็
นองค์
ความรู้
ที่
ขยายประโยชน์
สู่
ประเทศชาติ
ในภาพรวม พั
ฒนาจากงานแกะสลั
กผั
ก
ผลไม้
ที่
ใช้
รั
บประทานเพี
ยงอย่
างเดี
ยว สู่
การรั
งสรรค์
ภาชนะที่
แกะสลั
กจากผั
ก ผลไม้
ซึ่
งเพิ่
มคุ
ณค่
าทาง
สุ
นทรี
ยภาพทั้
งทางตา ทางกายและทางใจ
ในขณะเดี
ยวกั
นชาวต่
างชาติ
มากมายก็
มาเรี
ยน
ศิ
ลปะงานแกะสลั
กเครื่
องสดในประเทศไทย บาง
ประเทศเรี
ยนแล้
วไปเปิ
ดสถาบั
นสอนต่
อ จึ
งเป็
นเรื่
อง
ที่
เราจะต้
องเร่
งการขึ้
นทะเบี
ยนมรดกวั
ฒนธรรมทาง
ภู
มิ
ปั
ญญาศิ
ลปะแขนงนี้
เพื่
อคุ้
มครองสิ
ทธิ์
ในฐานะต้
น
กำ
�เนิ
ดของงานแกะสลั
กเครื่
องสด
งานแกะสลั
กเครื่
องสดนั้
นรั
งสรรค์
ขึ้
นจากมี
ด
เล็
กๆ เพี
ยงเล่
มเดี
ยว ผสานกั
บฝี
มื
อและความตั้
งใจของ
ศิ
ลปิ
นผู้
บรรจงแกะสลั
กลวดลาย เปรี
ยบดั่
งการปั้
นดิ
น
ให้
เป็
นดาวจากผลไม้
ที่
มี
ค่
าตามน้ำ
�หนั
กตาชั่
ง กลายเป็
น
งานวิ
จิ
ตรศิ
ลป์
ที่
เลอค่
า เป็
นคุ
ณค่
าแห่
งภู
มิ
ปั
ญญาที่
น่
า
ภาคภู
มิ
ใจ เมื
องไทยเป็
นชาติ
เดี
ยวในโลกที่
มี
วั
ฒนธรรม
ทางภู
มิ
ปั
ญญาด้
าน
“งานแกะสลั
กเครื่
องสด”
อั
นเป็
น
เอกลั
กษณ์
ของชาติ
ที่
ไม่
มี
ชาติ
ใดเสมอเหมื
อน เป็
นสิ่
งที่
คนไทยเราต้
องช่
วยกั
นสื
บสานและรั
งสรรค์
ศิ
ลปะนี้
ไว้
เป็
น
มรดกแผ่
นดิ
นสื
บไป
๒๗
......................................................
ข้
อมู
ลผู้
เขี
ยน : นางเพ็
ญพรรณ สิ
ทธิ
ไตรย์
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
สาขาทั
ศนศิ
ลป์
(ด้
านประณี
ตศิ
ลป์
– แกะสลั
กเครื่
องสด)
ประจำ
�ปี
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๕๒