Page 28 - fab53

Basic HTML Version

ครั้
งกรุ
งสุ
โขทั
ย ดั
งหลั
กฐานพระราชพิ
ธี
จองเปรี
ยง
ที่
นางนพมาศจั
ดทำ
�กระทงถวายพระร่
วง
“...พอถึ
งการพระราชพิ
ธี
จองเปรี
ยง ในวั
นเพ็
เดื
อน ๑๒ เป็
นนั
กขั
ตฤกษ์
บรรดาประชาชนชายหญิ
ต่
างตกแต่
งโคมชั
กโคมแขวนโคมลอย ทุ
กตระกู
ลทั่
ทั้
งพระนคร แล้
วก็
ชวนกั
นเล่
นมหรสพสิ้
นสามราตรี
เป็
เยี่
ยงอย่
าง แต่
บรรดาข้
าเฝ้
าฝ่
ายบุ
รุ
ษนั้
นต่
างทำ
�โคม
ประที
ปบริ
วารวิ
จิ
ตรด้
วยลวดลายวาดเขี
ยนเป็
นรู
ปและ
สั
ณฐานต่
างๆ ประกวดกั
น มาชั
กมาแขวนเป็
นระเบี
ยบ
เรี
ยงรายตามแนวโคมชั
ย เสาระหงตรงหน้
าพระที่
นั่
ชลพิ
มาน ถวายให้
ทรงอุ
ทิ
ศบู
ชาพระบวรพุ
ทธบาท ซึ่
ประดิ
ษฐานยั
งนั
นมาทานที
และข้
าน้
อยก็
กระทำ
�โคมลอย
คิ
ดตกแต่
งให้
งามประหลาดกว่
าโคมพระสนมกำ
�นั
ทั้
งปวง จึ
งเลื
อกผกาเกสรศรี
ต่
างๆ ประดั
บเป็
นรู
ปดอก
กระมุ
ทบานกลี
บรั
บแสงพระจั
นทร์
ใหญ่
ประมาณเท่
กงระแทะ ล้
วนแต่
พรรณดอกไม้
ซ้
อนสี
สลั
บให้
เป็
ลวดลาย แล้
วก็
เอาผลพฤกษาลดาชาติ
มาแกะจำ
�หลั
เป็
นรู
ปมยุ
ระคณานกวิ
หกหงส์
ให้
จั
กจิ
กเกสรบุ
ปผชาติ
อยู่
ตามกลี
บดอกกระมุ
ท เป็
นระเบี
ยบเรี
ยบเรี
ยงวิ
จิ
ตรไปด้
วย
สี
ย้
อมสดส่
างควรจะทอดทั
ศนายิ่
งนั
ก ทั้
งเสี
ยบแซมเที
ยน
ธู
ปและประที
ปน้ำ
�มั
นเปรี
ยงเจื
อด้
วยไขข้
อพระโค...”
ศิ
ลปะงานแกะสลั
กเครื่
องสดนั้
นสื
บทอดงานมา
สู่
สมั
ยอยุ
ธยาในราชสำ
�นั
กไทย และงานนี้
ก็
ถ่
ายทอด
ต่
อมาสู่
กรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร์
ดั
งหลั
กฐานบทพระราชนิ
พนธ์
“กาพย์
เห่
เรื
อชมเครื่
องคาวหวาน” ในพระบาทสมเด็
พระพุ
ทธเลิ
สหล้
านภาลั
ย รั
ชกาลที่
๒ อั
นเป็
นยุ
คทอง
ของวรรณคดี
และศิ
ลปกรรม พระราชนิ
พนธ์
นี้
ทรงนิ
พนธ์
เพื่
อสดุ
ดี
สมเด็
จพระศรี
สุ
ริ
เยนทราบรมราชิ
นี
ซึ่
งทรงมี
ฝี
มื
อการทำ
�อาหารคาวหวานและการเรื
อนตั้
งแต่
ครั้
งยั
ดำ
�รงพระยศ “เจ้
าฟ้
าหญิ
งบุ
ญรอด” ซึ่
งถ่
ายทอดให้
เห็
ความงามของศิ
ลปะแขนงนี้
...หมากปรางนางปอกแล้
ใส่
โถแก้
วแพร้
วพรายแสง
ยามชื่
นรื่
นโรยแรง
ปรางอิ่
มอาบซาบนาสา
พลั
บจี
นจั
กด้
วยมี
ทำ
�ประณี
ตน้ำ
�ตาลกวน
ติ
ดโอษฐ์
อ่
อนยิ้
มยวน
ยลยิ่
งพลั
บยั
บยั
บพรรณ
น้
อยหน่
านำ
�เมล็
ดออก
ปล้
อนเปลื
อกปอกเป็
นอั
ศจรรย์
มื
อใครไหนจั
กทั
เที
ยบเที
ยมที่
ฝี
มื
อนาง...
๒๖