Page 17 - fab53

Basic HTML Version

และพระแท่
นดงรั
ง เป็
นต้
น ทำ
�ให้
มี
ประชาชนจำ
�นวน
มากนำ
�พิ
ธี
บู
ชาเนื่
องในวั
นมาฆบู
ชาไปปฏิ
บั
ติ
กั
นอย่
าง
กว้
างขวางและสื
บมาจนถึ
งปั
จจุ
บั
สำ
�หรั
บแนวทางการประพฤติ
ปฏิ
บั
ติ
ที่
ถู
กต้
องและ
เหมาะสมของพุ
ทธศาสนิ
กชนเนื่
องในวั
นมาฆบู
ชานั้
ประกอบด้
วย
๑. การให้
ทาน
คื
อ การถวายภั
ตตาหารให้
แก่
พระภิ
กษุ
สามเณรในช่
วงเช้
าหรื
อเพล การบริ
จาค
ทรั
พย์
เพื่
อช่
วย เหลื
อผู้
ยากไ ร้
และการบำ
� เพ็
สาธารณประโยชน์
ให้
แก่
สั
งคม
๒. การรั
กษาศี
คื
อ การสำ
�รวมระวั
งกายและ
วาจา ด้
วยการรั
กษาศี
ล ๕ หรื
อศี
ล ๘
๓. การเจริ
ญภาวนา
คื
อ การบำ
�เพ็
ญภาวนาด้
วย
การไหว้
พระสวดมนต์
และปฏิ
บั
ติ
สมาธิ
และวิ
ปั
สสนา
๔. การเวี
ยนเที
ยน
พุ
ทธศาสนิ
กชนควรแต่
กายให้
สุ
ภาพเพื่
อเป็
นการบู
ชาพระรั
ตนตรั
ย ตลอดจน
ประนมมื
อถื
อดอกไม้
ธู
ปเที
ยน โดยเดิ
นเวี
ยนไปทาง
ขวามื
อของตนจนครบ ๓ รอบ ในแต่
ละรอบให้
ระลึ
กถึ
พระพุ
ทธคุ
ณ พระธรรมคุ
ณ และพระสั
งฆคุ
ณตามลำ
�ดั
จะเห็
นได้
ว่
า วั
นมาฆบู
ชานั้
น เป็
นวั
นที่
สำ
�คั
ยิ่
งอี
กวั
นหนึ่
งในพระพุ
ทธศาสนาที่
พุ
ทธศาสนิ
กชนพึ
ปฏิ
บั
ติ
เช่
นเดี
ยวกั
บวั
นสำ
�คั
ญทางพระพุ
ทธศาสนาวั
อื่
นๆ และ
เนื่
องในวั
นมาฆบู
ชา ซึ่
งในปี
นี้
ตรงกั
บวั
ที่
๒๘ กุ
มภาพั
นธ์
๒๕๕๓
กระทรวงวั
ฒนธรรม ได้
จั
ดกิ
จกรรมทั้
งในส่
วนกลางและส่
วนภู
มิ
ภาค โดยใน
ส่
วนกลางที่
กรุ
งเทพมหานคร จะมี
การจั
ดงานที่
มณฑล
ท้
องสนามหลวง ในระหว่
างวั
นที่
๒๔ – ๒๘ กุ
มภาพั
นธ์
๒๕๕๓ และที่
วั
ดสระเกศราชวรมหาวิ
หาร ในระหว่
างวั
ที่
๒๖ – ๒๘ กุ
มภาพั
นธ์
๒๕๕๓ อาทิ
การจั
ดนิ
ทรรศการ
วั
นมาฆบู
ชา การทำ
�บุ
ญตั
กบาตร พิ
ธี
เจริ
ญพระพุ
ทธมนต์
การแสดงพระธรรมเทศนา พิ
ธี
เวี
ยนเที
ยน การประกวด
สวดมนต์
หมู
สรรเสริ
ญพระรั
ตนตรั
ยทำ
�นองสรภั
ญญะ การ
แข่
งขั
นอาราธนาในพุ
ทธศาสนพิ
ธี
การแข่
งขั
นตอบปั
ญหา
ธรรมะ การประกวดขั
บร้
องเพลงธรรมะ เป็
นต้
น สำ
�หรั
ในส่
วนภู
มิ
ภาคนั้
น กระทรวงวั
ฒนธรรม ได้
ขอความ
ร่
วมมื
อให้
สำ
�นั
กงานวั
ฒนธรรมจั
งหวั
ดทั้
ง ๗๕ จั
งหวั
รณรงค์
เชิ
ญชวนให้
วั
ด ศาสนสถาน หน่
วยงานทั้
ภาครั
ฐและเอกชน ร่
วมกั
นจั
ดกิ
จกรรมเนื่
องในวั
นมาฆบู
ชา
สำ
�นั
กงานคณะกรรมการวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
กระทรวงวั
ฒนธรรม จึ
งขอเชิ
ญชวนพุ
ทธศาสนิ
กชนเข้
ร่
วมกิ
จกรรมเนื่
องในวั
นมาฆบู
ชา ทั้
งในส่
วนกลางและ
ส่
วนภู
มิ
ภาค และขอให้
พุ
ทธศาสนิ
กชนทุ
กคนพึ
งประพฤติ
และปฏิ
บั
ติ
ตามแนวทางที่
ถู
กต้
องและเหมาะสมตามที่
กล่
าวมาแล้
วข้
างต้
น เพื่
อสร้
างความศรั
ทธา และความ
ตระหนั
กถึ
งคุ
ณค่
าความสำ
�คั
ญของพระพุ
ทธศาสนา และ
นอกจากแนวทางฯ ดั
งกล่
าวแล้
ว ควรนำ
�แนวทางการ
ปฏิ
บั
ติ
ธรรมของพระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
ว โดยเฉพาะ
ในเรื่
องของ
ขั
นติ
ธรรม
มาประยุ
กต์
ใช้
ในชี
วิ
ตประจำ
�วั
ด้
วย จะเห็
นได้
จากภาพที่
พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
ทรงบำ
�เพ็
ญพระราชกรณี
ยกิ
จต่
างๆ อย่
างไม่
เห็
นแก่
ความ
เหน็
ดเหนื่
อย ไม่
ว่
าจะเป็
นในเมื
องหรื
อในถิ่
นทุ
รกั
นดาร
พระองค์
ไม่
ทรงท้
อพระราชหฤทั
ยต่
อปั
ญหา อุ
ปสรรค
และความเหนื่
อยยาก เพราะพระองค์
ทรงมี
ขั
นติ
ธรรม
นั่
นเอง หากทุ
กคนในสั
งคมมี
ขั
นติ
ธรรม
คื
ความอดทน
อดกลั้
ไม่
แก้
ปั
ญหาด้
วยความรุ
นแรง ก็
จะทำ
�ให้
สั
งคม
ไทยของเราปราศจากความขั
ดแย้
ง และสามารถอยู่
ร่
วม
กั
นได้
อย่
างสงบสุ
**********************
ข้
อมู
ลอ้
างอิ
งจากหนั
งสื
อวั
นมาฆบู
ชา
แนวทางการปฏิ
บั
ติ
สำ
�หรั
บพุ
ทธศาสนิ
กชน
ของสำ
�นั
กงานคณะกรรมการวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
กระทรวงวั
ฒนธรรม
๑๕